⦁…บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะปฏิวัติ นำรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครอง ล้มรัฐบาลเลือกตั้ง 22 พฤษภาคม 2557 และขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาล คสช. ‘คัมแบ๊ก’ นั่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายหลังเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562 เมื่อสมาชิกรัฐสภา อันประกอบด้วย ‘ส.ส. 497 คน’ และ ‘ส.ว.-สมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง 250 คน’ โหวตเห็นชอบ 500 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ชนะ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ทัพหนุ่มอนาคตใหม่ 7 พรรคค่ายประชาธิปไตยส่งประกวด ที่ได้ ‘244 คะแนน’ เข้าป้ายตามดีไซน์
⦁…ในจำนวนเสียงท่วมท้น ที่เทให้ ‘บิ๊กตู่’ นั้น แยกธาตุ 747 เสียง เรียงตามอักษรขานชื่อโหวต เป็นเสียง ส.ว.แต่งตั้งโดย คสช.ถึง 249 เสียง ขาดแค่ พรเพชร วิชิตชลชัย (ประธานวุฒิสภา) รองประธานรัฐสภางดออกเสียง อีก 251 เป็นเสียงสนับสนุนจากฝั่ง ส.ส. ผู้แทนปีกรัฐบาล งดออกเสียง 2 คน คือ ชวน หลีกภัย (ประธานสภาผู้แทนฯ) ประธานรัฐสภา ส.ส.ประชาธิปัตย์ และ สิริพงศ์
อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย
⦁…หากแยก ‘เฉพาะ ส.ส.’ ล้อรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ยึดมาตรฐานประชาธิปไตยสากล การเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินการในสภาผู้แทนราษฎร ถือเอาเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 500 เสียง เป็นเกณฑ์ตัดสิน หากยกกติกาเก่าทาบทับ จำลองภาพ ก็เท่ากับว่า ‘บิ๊กตู่ชนะฉิวเฉียด’ แม้เป็นเสียงข้างมาก แต่ก็ ‘ปริ่มน้ำ’ ครึ่งค่อนรู
จมูก จริงอยู่ 251 เสียงที่ได้ ยังไม่ใช่จำนวนแท้ทรู เหตุหล่น 1 ส.ส. ประชาธิปัตย์ เนื่องจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไขก๊อก รอขยับ สุทัศน์ เงินหมื่น ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์แทน แต่นับรวม 1 ปชป. และแม้ช็อตต่อไป ภูมิใจไทยอีก 1 หันมาโหวตหนุนรัฐบาล เสียงทางการเต็มที่ก็แค่ 253 เสียง ‘ปริ่มเว่อร์’ ไม่พ้นน้ำอยู่ดี ขณะที่ฝ่ายค้าน 244 เสียง รอโปะเพิ่มอีก 2 คือเสียงเดิมของ ‘ธนาธร’ พักปฏิบัติหน้าที่ และอีก ‘1 ส.ส.นครปฐม’ ลาป่วยลาประชุมรัฐสภา
⦁…ที่น่าคิดยิ่ง ก็หาก การโหวตครั้งนี้ ไม่มี ‘บทพิเศษเฉพาะกาล’ ให้ ส.ว.แจมเลือกนายกฯด้วย ผลโหวตจะเป็นอย่างที่เห็น 5 มิถุนาฯ หรือว่า ได้นายกฯจาก ส.ส.คนใหม่ เพราะหากไม่ล็อกเก้าอี้แน่นด้วยเสียง ส.ว. ฝ่ายเลือกตั้งเสียแต้มต่อ 250 – คะแนน ส.ส. อาจไหลไปอีกขั้วฝั่งหนึ่ง แต่เมื่อ ‘คีมปากตาย’ ทำงาน แน่นอนว่าย่อมมีทั้งเสียง ‘เต็มใจ’ และ ‘จำใจ’ ร่วมอยู่ใน 500
⦁…‘รัฐบาล 253 เสียง’ ฝ่ายค้าน 246 โจทย์เก่าคำถามเดิม ที่เพิ่มเติมก็วันนี้ไม่ใช่คาดการณ์ แต่เป็นเรื่องจริง ที่รัฐบาล 19 พรรคนำโดย ‘พลังประชารัฐ’ เผชิญ 253 เสียงนี้ จะอยู่-จะบริหารจัดการอย่างไร ให้มีเสถียรภาพ เมื่อการออกกฎหมาย-พ.ร.บ.งบประมาณ-ผลักดันฉบับสำคัญ เพื่อเป็นเครื่องมือรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดิน กระทำในสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีตัวช่วย ‘250 ส.ว.’ เหมือนโหวตเลือกนายกฯอีกต่อไป ไหนจะงานถูกฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบ ซักฟอก-อภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล 370 กว่าเสียง ยังเหนื่อยหืด ไม่เป็นอันทำงาน ‘เสียงไม่พอทำยา’ เท่านี้ จะ ‘สาหัส’ ขนาดไหน ไม่อยากมโน
⦁…สูตรแก้ เสียงข้างมากน้อยมาก คืองัด ‘แอนิมอล ฟาร์ม’ พากย์ภาษาไทยช่วย ทิปเข้าห้องน้ำ จ่ายพลร่ม ‘ช้อปงูเห่า’ โหวตแบบไม่ต้องขานชื่อเปิดเผย เงินถึงคงพึ่งได้ แต่ประเภทยกรังมาเกือบทั้งพรรค ว่ากันว่าให้จับตาพรรคเล็กให้ดี ‘ศรีธนญชัยดิจิทัล’ ไม่โหวตเห็นชอบนายกฯ แต่ขยับชูมือหนุนรัฐบาล ว่ากันไปเป็นอีเวนต์ๆ งบประมาณ ยันงานการเมือง
⦁…โหวต ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯจบ การเมืองโยกเข้าโหมดแบ่งเค้ก แชร์เก้าอี้ระหว่างพรรคร่วมศึกนอกยุ่งแล้ว แย่งเก้าอี้ แต่ละมุ้งศึกในก็วุ่น ก่อรอยร้าว ‘สามมิตร’ มุ้งใหญ่พลังประชารัฐ ‘ฮึดฮัด’ เมื่อคิดว่าเป็นพระเอก แต่พรรคตีค่าแค่ ‘ดาราประกอบ’ ทอล์กออฟเดอะทาวน์ เมาธ์มันคอการเมืองยามนี้ ขุมทรัพย์ใหญ่เกรดเอ ‘โซธบีย์’ สำนักประมูลดังระดับโลกไม่ได้ตั้งตัวเลขขั้นต่ำ แต่ราคาทะยาน ‘ทะลุครึ่งพัน’ เรียบโร้ย
ปักหมุด