เมื่อ “ความเกลียดชังในสิ่งหนึ่ง” ถูกนำมาใส่ในความคิด
“ความเกลียดชังในสิ่งนั้น” ถูกให้อาหารด้วยเรื่องราวเล่าขานที่ตอกย้ำให้เห็นความเลวร้าย และภาพที่ถูก
สร้างให้น่าสะพรึงกลัวทำให้ “ความเกลียดชังนั้น” หยั่งรากลึกสู่จิตสำนึก ก่อนที่จะแทงเข้าสู้จิตใต้สำนึก
กลายเป็นความรู้สึกเหนือความเข้าใจฝังแน่น และบงการความคิด
ความคิดที่ถูกบงการด้วย “คลื่นอันแพร่ออกจากความเกลียดชัง” โดยไม่รู้ตัวนั้น ได้มากำหนดการสื่อสารกับทุกสิ่ง
เหมือนใส่แว่นที่ทำให้สีเพี้ยนไปจากสีธรรมชาติ เหมือนเครื่องช่วยฟังที่แปลงเสียงให้ได้ยินไปคนละเรื่องกับที่คนอื่นได้ยิน เหมือนหน้ากากที่กรองกลิ่นให้ผิดไปจากที่เป็นจริง เหมือนสารบางอย่างในปากที่ทำให้ลิ้นรับรสผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น เสื้อผ้าที่ทำให้ปิดกั้นผิวสัมผัส และใจที่ถูกความฝังใจให้เชื่อในสิ่งที่ความคิดสร้างขึ้น ไม่ว่าจะห่างไกลจากความเป็นจริงเพียงใด
ยิ่งการแสดงออกด้วยความเกลียดชังนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งลาภผล ตัวตนได้รับการยอมรับเชิดชูมีสถานะอันถูกนับเป็นเกียรติยศจากคนในสังคม
ชีวิตระเริงสุขจากความสำเร็จนั้น
“ความเกลียดชัง” ถูกแปรให้รู้สึกที่งาม ภาคภูมิในความทรงจำ
การยึดความเกลียดชังต่อสิ่งนั้นยิ่งแน่นเหนียว
ชีวิตขึ้นอยู่และหมุนวนด้วยความเกลียดชังนั้น
เมื่อต้องสัมพันธ์กับคนอื่น ในฐานะพ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา คนในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนเก่าที่ยังผูกพัน
แม้จะสื่อสารด้วยความรัก
แต่เป็นความรักที่ย้อมด้วยทัศนคติแห่งความเกลียดชัง
หากเรื่องราวที่สื่อสารกันจำเป็นต้องโยงต้องพันเข้ามาเกี่ยวกับ “สิ่งที่เกลียดชัง”
ความรักและความผูกพันนั้นก็ถูกย้อมสี
เพราะยิ่งรักยิ่งอยากให้เหมือนกัน
อยากให้เห็นสิ่งนั้นในอารมณ์เกลียดชังเหมือนกัน
ใครที่ไม่เป็นเหมือนและไม่ยอมเป็นตาม จะถูกตั้งคำถาม โน้มน้าว และปฏิเสธในที่สุด
ความรักความผูกพันที่เอ่ยอ้างนักหนา เมื่อต้องเลือกระหว่างสิ่งที่เกลียดชังกับสิ่งที่รักที่ผูกพัน
มักเลือกที่จะรักษาความเกลียดชังนั้นไว้
เลือกที่จะมองคนที่รัก สิ่งที่ผูกพันผ่านแว่นของ “สิ่งที่เกลียดชัง”
ชะตากรรมของมนุษย์ที่หลงใหลได้ปลื้มกับความสำเร็จในการเพาะสิ่งเกลียดชังขึ้นภายในใจ และหล่อเลี้ยงให้เติบใหญ่ในความคิด หยั่งรากลึกลงในจิตสำนึก
จนกระทั่งหล่อเลี้ยงจิตใต้สำนึกไว้ด้วยความเกลียดชังนั้น
ย่อมพร้อมจะตัดญาติขาดมิตรกับใครก็ได้ ไม่ว่าจะรักและผูกพันกันมานานเพียงใด
หากคนคนนั้นขัดหู ขัดตา ขัดใจ ตัวตนที่สร้างขึ้นและขยายใหญ่ด้วยความเกลียดชังนั้น
และด้วยเหตุนี้เอง การสร้างให้เกิดความรู้สึกเกลียดชัง จึงเป็นวิธีแย่งชิงอำนาจที่ได้ผลที่สุด
ด้วยหากสร้างให้เกิดขึ้นกับใครได้
ความงมงายอย่างไม่ลืมหูลืมตามาแสวงหาความเป็นจริงจะเกิดขึ้น
การควบคุมและใช้งานคนที่งมงายย่อมไม่มีความยุ่งยาก
ไม่เพียงไม่ขัดขืน แต่ยังยินยอมพร้อมใจทุ่มเทให้อย่างเต็มที่