เมื่อวันที่ 11ก.ค.62 ชุดสืบสวนสภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดย พ.ต.ต.นิติธร พิมพ์คำ สารวัตรสืบสวน สภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวน สืบทราบมาว่า มีแก๊งเสพยาแอบมั่วสุมในพื้นที่รับผิดชอบ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มั่วสุมในป่า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและรุดตรวจสอบ และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย เป็นชายสองคนพร้อมของกลางยาเสพติด(ยาบ้า)ราว 10 เม็ด
จึงนำตัวมาควบคุมตัวไว้ พร้อมสอบสวนขยายผล ชายทั้งสอง ให้การว่า มีเพื่อนอีก 2 คน กำลังมาพบกันในพื้นที่ ตามที่นัดหมาย ชุดสืบสวนวางแผนการจับกุม เพื่อขยายผลให้ได้ครบ กระทั่งพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีขาว วิ่งมาด้วยความเร็วผิดสังเกต จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นแต่คนขับรู้ตัวขับรถหนี จึงไล่ล่าติดตามไปรถเก๋งคันดังกล่าว มุ่งหน้าหลบหนีถนนสายสระแก้วตัดใหม่ (สระแก้ว –พนมสารคาม) หรือสาย 359 มุ่งหน้าเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทราพื้นที่รอยต่อ
ตำรวจไล่ตามจับแต่ผู้ต้องสงสัย ไม่ยอมให้จับ กลับเร่งความเร็วขับรถหนีด้วยความเร็ว เข้าพื้นที่ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จึงขอกำลังสนับสนุนตามเส้นทางดังกล่าว พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง(ศรีมหาโพธิ ) ปิดถนนสาย 304 (ศรีมหาโพธิ –ฉะเชิงเทรา) เพื่อสกัดจับรถคันดังกล่าว บริเวณจุดสกัดตู้ยามทางหลวง
แต่รถคันดังกล่าวเลี้ยวหนีจุดสกัดเข้าหมู่บ้านวังทุละออกมาหน้าวัดใหม่นาบุญ และ ถูกจับได้ในที่สุด จากากการตรวจค้นภายในรถพบปืนไทยประดิษฐ์แบบลูกซองพกสั้นจึงควบคุมตัวมาสอบสวนตรวจค้นที่สภ.ศรีมหาโพธิ
เวลาต่อมา พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวินผกก.ได้ลงมาตรวจสอบด้วยตัวเอง ชุดสืบสวนรายงานให้ทราบว่าจากการตรวจค้นเบื้องต้นภายในรถพบปืนพกสั้น 1 กระบอก(ไทยประดิษฐ์) พร้อมกระสุน 2 นัด ผู้ต้องสงสัย 2 คน คือนายสมพิษ (สงวนนามสกุล ) อายุ47 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี นางอุไรรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ29 ปี เป็นภรรยา ของนายสมพิษ
จากการสอบถามครั้งแรก ฝ่ายหญิงยอมรับสารภาพว่า นั่งรถมาเก็บเงินค่ายาและ เสพยา เวลาต่อมา ได้ให้การกลับคำ จึงนำตัวทั้งสองไปขยายผล ตรวจค้นที่บ้าน
นายสมพิษกล่าวว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่อย่างใด รถก็ไม่ใช่ของตน เป็นรถของแฟนลูกสาว ตนเอามาใช้เพื่อที่จะไปรับลูกสาวที่นิคม 304 แต่มาพบตำรวจด้วยความตกใจกลัว จึงขับรถหนีตำรวจเพราะตนเองมีปืนพกมาด้วย ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของทั้งสอง หากตรวจค้นที่บ้านไม่พบ จะได้รวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป