จับต่อเนื่องแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย เผยยอดทะลุแล้ว 7,000 ราย

อธิบดีกรมการจัดหางาน เผยตรวจจับดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 7,553 คน ส่งกลับประเทศต้นทาง 7,234 คน ขณะที่ดำเนินคดีนายจ้างไปแล้ว 1,686 ราย/แห่ง รวมค่าปรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าว กว่า 48 ล้านบาท

นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานมีนโยบายกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยได้สั่งการให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ และสำนักงานจัดหางานจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานเป็นจำนวนมาก เช่น สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร อาทิ เขตห้วยขวาง เขตสุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งมีสถิติการลักลอบทำงานสูง ให้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองตรวจเข้มการทำงานของแรงงานต่างด้าวและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ซึ่งตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2561 – 22 กรกฎาคม 2562 ได้ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าวไปแล้ว จำนวน 554,270 คน และดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือขายสินค้า ขายอาหารตามแผงต่างๆ ขายของหน้าร้าน รวมทั้งเร่ขายสินค้า และงานอื่นๆ ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัย วิน
มอเตอร์ไซต์ นวดแผนไทย และเสริมสวย ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำตามกฎหมาย จำนวน 7,553 คน   โดยได้เปรียบเทียบปรับแรงงานต่างด้าว คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 34,648,900 บาท ผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางแล้ว จำนวน 7,234 คน ขณะที่ตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการไปแล้ว 40,190 ราย/แห่ง ดำเนินคดี 1,686 ราย/แห่ง คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 14,145,700 บาท รวมค่าปรับทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 48,794,600 บาท

Advertisement

“แรงงานต่างด้าวต้องมีใบอนุญาตทำงานและทำงานตรงกับที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยงานที่ทำต้องไม่ใช่งานที่ห้ามคนต่างด้าวทำหรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท หากผู้ใดพบเห็นคนต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบต่อไป” นางเพชรรัตน์ฯ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image