นายจิติพล พกฤษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันที่26 กรกฎาคมเปิดที่ระดับ30.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในคืนที่ผ่านมาทุกสกุลเงินถูกกดดันด้วยทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่ในช่วงแรกกลับหนุนให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเนื่องจากไม่ลดดอกเบี้ยในครั้งนี้แต่ในที่สุดเมื่อประธานอีซีบีให้ความเห็นในเชิงผ่อนคลายเงินยูโรจึงอ่อนค่ากลับลงได้ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในท้ายตลาดขณะเดียวกันการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร(บอนด์ยีลด์) สหรัฐปรับตัวสูงก็แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯอยู่ถ้าในวันนี้การรายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ยังขยายตัวได้ดีดอลลาร์สหรัฐก็มีโอกาสแข็งค่าไปทดสอบระดับ31.00 บาทคาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.90-30.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายจิตพล กล่าวว่า แม้อีซีบีส่งสัญญาณพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยในอนาคตแต่ตลาดทุนโดยรวมปิดรับความเสี่ยงจึงไม่สามารถหนุนหุ้นยุโรปได้โดยดัชนีSTOXX50 ปรับตัวลง0.6% พร้อมกับดัชนีFTSE100 ของอังกฤษปิดลบ0.2% ขณะเดียวกัน รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯก็ไม่ได้ดีมากนักดัชนีS&P500 จึงย่อตัวลง0.5% ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักและราคาทองคำปรับตัวลง0.8% แตะระดับ1,414.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นายจิตพล กล่าวว่า อย่างไรก็ดีข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆไม่ได้เลวร้ายมากนักไล่ตั้งแต่ ธนาคารกลางตุรกีที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง4.25% สู่ระดับ19.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐกระทรวงแรงงานก็รายงานยอดขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ลดลง1 หมื่นตำแหน่งสู่ระดับ2.06 แสนตำแหน่งต่ำที่สุดในรอบ15 สัปดาห์ นอกจากนี้สำนักงานสถิติเกาหลีใต้ก็รายงานว่าเศรษฐกิจเกาหลีไตรมาสที่2 ขยายตัวได้ถึง2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งทั้งหมดชี้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงและธนาคารกลางก็ยังพร้อมที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจที่มีปัญหา
