พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า โอลิมปิคไทยฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท เจทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการเป็นผู้แทนจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการดำเนินการ และอยากเชิญชวนชาวไทยร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬาไทย ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ JTB (Thailand)
พล.ต.จารึกกล่าวว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ในช่วงการเดินทางไปแข่งขันคัดเลือกโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยจะทราบผลการคัดเลือกในช่วง 2-3 เดือนก่อนการแข่งขันโอลิมปิกจะเริ่มต้น สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทยตอนนี้กำลังเตรียมตัวอยู่ ซึ่งการคัดเลือกจะเป็นหน้าที่ของสหพันธ์นานาชาติของแต่ละชนิดกีฬา
“ผมคิดว่านักกีฬาไทยก็มีความพร้อมเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้อย่างดีในกีฬาบางประเภท แต่ต้องยอมรับว่ากีฬาบางประเภทเรายังสู้เขาไม่ได้ อย่างในทวีปเอเชียด้วยกัน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เขาถือว่ามีโอกาสมากกว่า แต่กีฬาหลักของไทยเราก็คือ กีฬามวยสากล ที่ถือเป็นชนิดกีฬาหลักที่ทัพนักกีฬาไทยมีลุ้นในโอลิมปิก” พล.ต.จารึกกล่าว
พล.ต.จารึกกล่าวอีกว่า นอกจากมวยสากลสมัครเล่นแล้วยังมีเทควันโด ซึ่งเป็นชนิดกีฬาต่อสู้ที่ทัพไทยมีความหวังในโอลิมปิก และหวังว่าในการทั้งสองชนิดกีฬาต่อสู้นี้จะผ่านการควอลิฟายไปร่วมชิงชัยในโตเกียว 2020 ส่วนกีฬาประเภททีมที่มีลุ้นโควต้าอย่าง วอลเลย์บอลหญิงนั้น ส่วนตัวคิดว่ายังพอมีโอกาสในการสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปร่วมชิงชัยในโอลิมปิก
“ผมว่าโอกาสของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยพอมีนะ แต่ทีมอื่นเขาก็เตรียมตัวกันทั้งนั้น โอกาสของเรายังมี แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้ดี และเตรียมตัวให้เต็มที่ โอกาสอยู่ที่ 50-50 ส่วนกีฬาฟุตบอลถือว่าเหนื่อยมากที่จะได้ลุ้นไปโอลิมปิก เพราะตอนนี้เราก็ยังห่างจากทีมอื่นพอสมควร ซึ่งทางวอลเลย์บอลก็ถือว่ามีโอกาสที่จะได้ไปโอลิมปิกมากกว่าฟุตบอล” พล.ต.จารึกกล่าวปิดท้าย
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
