เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบหมายงานให้ดูแลสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์นั้น ตนหารือกับ สกศ.พร้อมให้กลับตั้งคำถาม และหาแนวทางที่จะพัฒนา สกศ.ให้เป็นขงเบ้งของ ศธ.จะเป็นอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง ทำอย่างไรให้ประชาชนรู้จัก และเห็นถึงความสำคัญของ สกศ.ที่ทำหน้าที่เป็นผู้วางแผนเกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ
“นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆ นี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวอีกครั้งถึงข้อกังวลต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายฉบับใหม่บังคับใช้ โครงสร้าง และภารกิจของ สกศ.จะเปลี่ยนผ่านเป็น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ ที่นายกฯ มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ดังนั้น สกศ.ต้องเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น” คุณหญิงกัลยา กล่าว
นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ สกศ.กล่าวว่า สิ่งที่คุณหญิงกัลยาอยากให้ สกศ.พัฒนา คือการพัฒนานโยบายที่นำไปใช้งานได้จริง และอยากให้เป็นผู้ชี้นำการศึกษา ซึ่ง สกศ.เตรียมปรับแผนการทำงานอยู่แล้ว เมื่อ พ.ร.บ.ฉบับใหม่บังคับใช้ สกศ.จะปรับบทบาทไปมาก สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างมากคือข้อมูล และการกำกับติดตาม พร้อมกับการมีอำนาจในการประเมิน และกำกับติดตามในการดำเนินงานตามนโยบาย ดังนั้น สกศ.จะเปลี่ยนเป็นผู้กำหนดโยบาย และผู้คิดแผนแม่บท เรื่องนี้ สกศ.ไม่สามารถทำด้วยตนเองได้ ต้องทำงานร่วมกับ ศธ.เพียงแต่ สกศ.จะมีหน้าที่เป็นแม่งานทั้งหมดในการออกแบบ แก้ไขปัญหา ทำโรดแมป หรือแผนการปฏิบัติงานทั้งหมด