เลิฟ ยู มามี้ ‘สายป่าน-มิว-คริสซี่’ เปิดใจนี่คือเหตุผลที่ ‘รักแม่’

สําหรับลูกๆ แล้ว แม่ของตัวเอง คือคนที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน หากกระนั้นสิ่งหนึ่งซึ่งเราเชื่อว่า ลูกทุกคนจะคิดเห็นตรงกันคือ ในชีวิตของเรานั้น แม่คือ “บุคคลพิเศษ”

พิเศษอย่างยิ่ง

เราไม่มีความลับต่อกัน

สำหรับ สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข นั้น เธอบอกว่า “ป่านกับแม่ผูกพันกันมาก”

Advertisement

“แม่ค่อนข้างให้อิสระทางความคิดมากๆ ที่ป่านกล้าคิด กล้าพูด กล้าตัดสินใจ เพราะแม่ให้อิสระทางความคิดเสมอ ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยตีกรอบเลยว่า ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ แต่แม่จะสอน ความคิดแม่ก็ถ่ายทอดมาสู่ป่านโดยอัตโนมัติ ป่านคิดว่าแม่เลยมั่นใจในตัวป่าน เพราะฉะนั้นเวลาที่ป่านต้องตัดสินใจ หรือต้องเลือก เขาจะให้อิสระเต็มที่”

ขณะเดียวกันก็คอยให้กำลังใจและพร้อมเป็นที่ปรึกษาอยู่ทุกเมื่อที่ต้องการ อาจเพราะเหตุนั้น “ป่านกับแม่จึงไม่มีความลับกันเลย”

“ป่านบอกแม่ทุกอย่าง แล้วแม่ก็รับได้ทุกอย่าง อันนี้ป่านขอบคุณแม่มากๆ เลยนะ ที่รับฟัง และยอมรับในการตัดสินใจ ไม่เคยห่วง กังวลอะไรในตัวเรา และเชื่อมั่นในตัวป่านมากๆ”

Advertisement

กับคำสอนที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งอายุ 29 ปีในวันนี้ สายป่านบอกว่าเธอยังจำคำ “อย่าลืมตัว” ที่แม่ย้ำได้เสมอ

“ป่านอยู่กับแม่เยอะ เวลาไปไหน ก็ไปกับแม่ เลยไม่รู้จะเหลิงใส่ใคร เพราะแม่เราอยู่ด้วยตลอด ถ้าหลงตัวเอง เหลิงๆ แม่อาจจะดุได้ มันเลยไม่ได้เป็นแบบนั้น”

“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ป่านก็เป็นป่านคนเดิม”

“ทุกวันนี้เลยไม่ได้แสดง ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นสายป่าน คือถ้าเป็นแบบนั้น เราเองก็เหนื่อย แล้วจะเกลียดตัวเอง เป็นตัวเองแบบนี้สบายจะตาย ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ไปไหนได้หมด ยังเดินตลาดตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ ทุกคำสอนที่แม่สอน พ่อสอน ก็เป็นในสิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจ ว่าเราคือลูกสาวของเขา”

“ที่ผ่านมา ป่านไม่จำเป็นต้องพูดแก้ข่าว แก้อะไร ตราบใดที่แม่เข้าใจว่าเราเป็นคนยังไง คือจบ ดังนั้นเขาเป็นมากกว่ากำลังใจ แต่เขาคือทุกอย่าง”

“แล้วป่านรู้ตัวว่าป่านทำอะไรอยู่ ป่านทำดีแล้ว หรือยังดีไม่พอ ดีแล้วแม่ภูมิใจ หรือดีไม่พอที่จะเป็นลูกแม่ และป่านต้องแก้ไขตรงไหน เพื่อที่จะทำให้ไม่มีใครด่าแม่”

“ป่านคือผลผลิตหนึ่งของเขา ป่านเกิดมาจากความรัก ดังนั้นป่านต้องทำตัวให้คุ้มค่ากับความรักที่เขามีให้กับเรา”

สำหรับวันแม่ปีนี้ สายป่านบอกว่าเธอมอบทัวร์เกาะหลีเป๊ะ พาทั้งแม่และพ่อไปเที่ยว

“ก่อนหน้านี้เวลาป่านบอกรักแม่ ก็บอกรักโดยการซื้อทัวร์ให้ พาแม่ไปเที่ยว เขามีความสุขมาก ป่านเองก็มีความสุข”

“วิธีการพากันไปเที่ยว คือการบอกรักกันของบ้านเรา”

…..

คุณจุ๋ม คุณทำแบบนี้ ไม่ได้นะ

ใช่ค่ะ แม่ของ มิว-ลักษณ์นารา เปี้ยทา ชื่อว่า จุ๋ม และประโยคข้างต้น คือประโยคที่เธอใช้พูดกับแม่ ในยามที่ทั้ง 2 ฝั่งอารมณ์ดี และคิดจะแซวกันเล่น

“สนิทกันมาก”

“เรียกได้ว่า ถ้ามีแม่อยู่ที่ไหน มีมิวที่นั่น เพราะแม่เลี้ยงเราเหมือนเป็นทั้งแม่ เป็นทั้งเพื่อน เราจึงเป็นเด็กที่คุยกับแม่ได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ส่วนตัวขนาดไหนก็ตาม”

ทั้งนี้ มิวบอกว่าแม่เป็นคนที่บทจะดุ ก็ดุมาก บทจะใจดีก็ใจดีมาก

“แต่ก็ดุตามประสาแม่นั่นแหละ เราทำอะไรผิดก็ต้องดุ ให้รู้ว่าทำแบบนี้ไม่ดี ซึ่งเราก็จะกลัวเฉพาะตอนเขาโกรธ ตอนเขาอารมณ์ปกติ อารมณ์ดี ไม่กลัว สามารถเรียกชื่อแม่ได้ ว่าคุณจุ๋ม คุณทำแบบนี้ ไม่ได้นะ เล่นกันแบบนี้ได้”

“ดูจังหวะอารมณ์เขา เรียกว่าอยู่เป็นค่ะ” เมาธ์ตัวเองแล้วก็หัวเราะ

“วันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็โอเคค่ะ มิวจะไม่ยุ่ง แม่บ่นอะไรมา ก็บอกว่าได้แม่ ได้จ้ะ”

บอกด้วยว่า แม่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในหลายๆ เรื่องของชีวิต

“เขาจะให้กำลังใจ แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเราตลอด ว่าเราทำได้”

พูดถึงตรงนี้เสียงคุยแจ้วๆ ปนเสียงหัวเราะในบางคราวก็เริ่มสั่น

จากนั้นจึงเล่าต่อว่า มีหลายครั้งที่เธอเครียดกับปัญหา ไม่รู้ว่าจะก้าวข้ามได้อย่างไร

“แม่ก็พูดว่าขนาดแม่ยังเชื่อมั่นในตัวมิว ทำไมมิวไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แม่บอกด้วยว่าไม่ใช่แค่แม่ แต่พ่อก็เชื่อมั่นในตัวมิวด้วย เหลือแต่มิวแล้วที่จะต้องเชื่อมั่นในตัวเอง คำพูดแม่เหมือนจุดไฟลุกโชน โยนน้ำมันก๊าดให้”

“คือเวลาเครียด ท้อ แล้วมีคนพูดอย่างนี้ มันดีมากเลยนะ”

“มิวถึงบอกว่ากำลังใจ และคำพูดของแม่มีส่วนอย่างมาก แม่มีบทบาทสำคัญมากเลยในชีวิตของมิว”

“ยืนยันเลยว่ามีมิวต้องมีแม่ มีแม่ต้องมีมิว”

…..

เลิฟ ยู มามี้

“เวลาคุยโทรศัพท์กัน พอจะวางสาย ซี่จะบอกเลิฟ ยู มามี้ เป็นประจำ” นี่คือถ้อยคำแสดงความรู้สึก ที่ คริสซี่-กฤษณ์สิรี ศุขสวัสดิ์ เล่าให้ฟังว่าพูดเป็นประจำกับแม่

แม่ที่ในความเห็นของเธอ เป็น “สายสตรอง” เนื่องจากต้องเลี้ยงลูก 2 คนตามลำพัง อีกทั้งยัง “เติมเต็มให้ จนไม่รู้ว่าขาด”

วิธีการเลี้ยงของแม่ คริสซี่ว่า แม่ทำให้รู้เหมือนเป็นเพื่อน ที่มีอะไรก็คุยกันได้หมด อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ลองผิด ลองถูก เรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง

“จะไม่บอกว่าอะไรดี ไม่ดี ให้ลองไปเลย แล้วเราจะได้รู้”

คริสซี่ ในวัย 22 ปี ยังเล่าถึงตัวเองด้วยว่า ตอนเด็กๆ เป็นคนดื้อ และชอบเถียง ดังนั้นเวลาเจออะไรไม่เห็นด้วยก็จะต่อต้าน

“ตอนนั้นคุณแม่คงต้องเหนื่อยๆ มากๆ แต่โตขึ้นมา พอเริ่มคุยกันได้ก็เริ่มหยวนๆ พบกันตรงกลาง”

“ทุกวันนี้เวลามีอะไรซี่จะเล่า หรือเรียกว่าบ่นให้คุณแม่ฟัง รู้สึกว่าอยู่กับคุณแม่สบายใจที่สุด”

“คุณแม่พูดตลอดว่าเขาภูมิใจที่เห็นซี่ทำงานได้ ซี่ทำงานตั้งแต่อายุ 15 แต่เขาไม่ได้พูดตอนนั้นหรอก มาพูดตอนนี้ที่เราโตแล้ว ว่าภูมิใจมาก ซี่เป็นคนเก่งมากๆ อายุแค่ 15 แต่ทำงาน 7 วันต่ออาทิตย์ และเรียนไปด้วย แต่เขาไม่ชมตรงๆ ผ่านไปสัก 5 ปี แล้วค่อยพูด” คริสซี่บอกพลางยิ้ม

บอกอีก ถ้าเทียบแม่ตอนเธอยังเด็กกับตอนนี้ รู้สึกว่าเลเวลการดุของแม่ลดน้อยลง

เหตุผลที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ คือ “คงเพราะลูกดุขึ้น เวลาคุณแม่ทำอะไรไม่ถูก เราก็ดุ”

ทั้งนี้เรื่องที่ดุส่วนใหญ่ คือเรื่องให้พยายามดูแลสุขภาพ

“ห่วง เพราะคุณแม่ยังทำงานหนัก”

“ซึ่งถึงแม้ซี่จะไม่ค่อยได้แสดงออก แต่ก็ใช้วิธีพยายามชวนเขาไปโน่นไปนี่ ไปพักผ่อน”

ทั้งหมดนั้นก็เพราะ “เลิฟ ยู มามี้” ที่ว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image