เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นักศึกษาชาวจีนสุดทนลุกขึ้นฟ้องร้องสวนสนุกดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ โทษฐานปฏิบัติสองมาตรฐาน เหตุจากการห้ามผู้ที่มาเที่ยวชมนำอาหารของตนที่จัดเตรียมมาเองเข้าไปภายในสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐาน เนื่องจากกฎข้อห้ามนี้ของทางดิสนีย์แลนด์บังคับใช้แต่กับสวนสนุกที่อยู่ในเอเชียเท่านั้น แต่ไม่ได้มีผลใช้กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือในชาติยุโรปแต่อย่างใด โดยศาลประชาชนจีนได้ประทับรับฟ้องในคดีนี้แล้ว
ผู้ยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับทางดิสนีย์แลนด์รายนี้ เป็นนักศึกษาหญิงชาวจีน เปิดเผยนามสกุลเพียงว่า แซ่หวัง กล่าวว่า เธอถูกละเมิดสิทธิ์ หลังจากที่ทางสวนสนุกห้ามเธอนำอาหารที่เธอเตรียมมาเองเข้าไปในสวนสนุก จนทำให้เธอต้องจ่ายเงินซื้ออาหารที่จำหน่ายในสวนสนุกที่ขายในราคาแพงกว่ามาก
“คนส่วนมากอาจจะรู้สึกว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิ์ แต่พวกเขาไม่ฟ้องร้องเนื่องจากเวลา แต่ในฐานะนักศึกษากฎหมาย นี่เป็นหน้าที่ของเรา” น.ส.หวังบอกกับเดอะ เพเพอร์ สื่อออนไลน์
กรณีการฟ้องร้องบริษัทสวนสนุกยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันแห่งนี้ของนักศึกษาชาวจีนผู้นี้ได้จุดกระแสในเครือข่ายสังคมออนไลน์ในจีนอย่างเว่ยป๋อ ที่มีการติดแฮชแท็กภาษาจีนว่า “ดิสนีย์ถูกฟ้องจากการห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาเอง” ซึ่งกระแสนี้ดึงยอดวิวได้มากกว่า 600 ล้านวิวและมีการแสดงความคิดเห็นหลายหมื่นข้อความ ที่มีความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “กฎของดิสนีย์เป็นตัวอย่างของการปฏิบัติสองมาตรฐานและเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอเชีย”
ขณะที่พีเพิลส์ เดลี กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แสดงความเห็นว่าจะต้องมีการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้บริโภค และว่า ทำไมต้องปฏิบัติสองมาตรฐาน?
ด้านบริษัทดิสนีย์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีว่า กฎระเบียบที่ทางดิสนีย์ใช้สอดคล้องกับสวนสนุกของจีนและสวนสนุกของดิสนีย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่นๆในเอเชีย
ทั้งนี้สวนสนุกดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ที่มีมูลค่า 5,500 ล้านดอลลาร์ ได้เปิดตัวขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนในเดือนมิถุนายนปี 2559 เป็นสวนสนุกแห่งที่ 6 ของดิสนีย์ในโลก และเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย
ขณะที่เว็บไซด์ของบริษัทดิสนีย์ในสหรัฐระบุว่านับจากเดือนพฤศจิกายนปี 2560 เป็นต้นมา ทางสวนสนุกไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปได้ แต่อนุโลมให้กับอาหารทารก ของคบเคี้ยวหรือผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม
