“ตาหมากรุก” โครเอเชีย ลงเตะประเดิมสนามคว้า 3 แต้มแรกได้สำเร็จหลังจากเชือดเอาชนะ “ไก่งวง” ตุรกี 1-0 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” รอบแรก กลุ่มดี ที่สนามปาร์ค เดส์ แปลงส์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน
สถิติที่ทั้งสองทีมเคยพบกันก่อนหน้านี้ 6 นัด ปรากฏว่า ตุรกีไม่เคยเอาชนะได้เลย แพ้ไป 2 นัด และเสมอกัน 4 นัด โดยตุรกียิงได้ 4 ประตู และเสียไป 8 ประตู ขณะที่โครเอเชียยิงได้ 8 ประตู และเสียไปเพียง 4 ประตู ส่วนในศึกยูโรรอบสุดท้ายเคยพบกัน 2 ครั้ง ตุรกีชนะ 1 นัด ในการดวลจุดโทษ 3-1 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ในยูโร 2008 รอบรองชนะเลิศ และอีกนัดโครเอเชียชนะ 1-0 ในยูโร 1996 รอบแบ่งกลุ่ม
เกมนี้ ฟาติห์ เตริม เฮดโค้ชตุรกีจัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม 11 ผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-3-2-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โวลคาน บาบากัน กองหลัง จาเนร์ เอร์คิน, ฮาคาน บัลต้า, เมห์เม็ต โทปาล, โกคาน โกนูล กองกลางมีโอกูซาน โอซยาคุป, เซลชุก อินาน, โอซาน ตูฟาน ตัวริมเส้นซ้าย-ขวา อาร์ด้า ตูราน สวมปลอกแขนกัปตันทีม และฮาคาน ชาลฮาโนกลู ส่วนศูนย์หน้าตัวเป้า เจนก์ โตซุน
ขณะที่ อันเต้ ชาชิช กุนซือโครเอเชียขนนักเตะตัวหลักลงครบครัน 11 นักเตะตัวจริงในระบบ 4-2-3-1 ดังนี้ ผูู้รักษาประตู ดาเนียล ซูบาชิช กองหลัง อีวาน สตรินิช, เวดราน ชอร์ลูก้า, โดมากอย วิด้า, ดาริโย เซอร์น่า เป็นกัปตันทีม ถัดมาในแดนกลางนำโดยลูก้า โมดริช, อีวาน ราคิติช, มิลาน บาเดล, อีวาน เปริชิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช ด้านแดนหน้ามีมาริโอ มานด์ซูคิช ลงล่าตาข่าย
เกมครึ่งแรกเริ่มต้นได้ไม่ถึง 2 นาที โครเอเชียได้โอกาสบุกลุ้นเข้าประตูเป็นครั้งแรก ดาริโย เซอร์น่า โยนบอลเข้าเขตโทษให้อีวาน ราคิติช พุ่งเข้าชาร์จบอลหลุดกรอบออกไปไม่ไกล
จากนั้นแข้งตุรกีเริ่มครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากขึ้น นาทีที่ 13 โอซาน ตูฟาน ได้โอกาสสับไกยิงนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลบดพื้นหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 17 มาริโอ มานด์ซูคิช ดาวยิงชาวโครแอตได้บอลจากการโยนของดาริโย เซอร์น่า แต่ยิงไปติดบล็อกแนวรับของตุรกี
นาทีที่ 22 โครเอเชียยังบุกได้ต่อเนื่อง อีวาน เปริชิช เปิดบอลเข้ากลางให้มาร์เซโล่ โบรโซวิช ลอยตัวขึ้นโขกบอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 27 โครเอเชียชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่มิลาน บาเดล เก็บตกบอลแถวสองก่อนซัดไปเข้ามือของโวลคาน บาบากัน นายทวารตุรกีรับเอาไว้ได้
นาทีที่ 29 ตุรกีโต้สวนกลับทันควันและได้ลุ้นประตูจะแจ้งจากจังหวะขึ้นโหม่งของโอซาน ตูฟาน แต่ไปตรงตัวของดาเนียล ซูบาชิช นายด่านโครเอเชีย
นาที่ที่ 31 เวดราน ชอร์ลูก้า แนวรับโครเอเชียกระโดดขึ้นโหม่งแย่งบอลไปโดนศอกของเจนก์ โตซุน นักเตะตุรกี จนทำให้ชอร์ลูก้าหัวแตก และโตซุนโดนใบเหลืองด้วย
นาทีที่ 39 มาริโอ มานด์ซูคิช ได้โอกาสยิงอีกครั้งหน้าเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือของโวลคาน บาบากัน
นาทีที่ 41 โครเอเชียพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่กองหลังตุรกีสกัดบอลทิ้งไม่ขาดไปเข้าทางของลูก้า โมดริช วิ่งเข้ามาตะบันด้วยเท้าขวาเต็มแรงบอลพุ่งเข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม
จบครึ่งแรกโครเอเชียขึ้นนำตุรกี 1-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 48 ฮาคาน บัลต้า กองหลังตุรกีพุ่งเสียบเปิดปุ่มเข้าใส่ มาริโอ มานด์ซูคิช จนล้มไปกองกับพื้น ทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้กับบัลต้า
นาทีที่ 51 โครเอเชียได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ดาริโย เซอร์น่า บรรจงวางเท้าขวาซัดบอลไปชนคานอย่างจัง ทำให้พลาดได้ประตูทิ้งห่างออกไป
นาทีที่ 54 ดาริโย เซอร์น่าได้เก็บตกบอลแถวสองโล่งๆ แต่ยิงบอลด้วยเท้าซ้ายข้างไม่ถนัดหลัดกรอบประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 61 มาริโอ มานด์ซูคิช โหม่งชงให้มาร์เซโล่ โบรโซวิช พักอกหนึ่งจังหวะก่อนซัดบอลข้ามคานออกไปอีก
นาทีที่ 72 ทัพตาหมากรุกโหมบุกหนัก และชวดได้ประตูฉีกหนีเป็น 2-0 มาริโอ มานด์ซูคิช โยนบอลให้ อีวาน เปริชิช โขกสะบัดบอลไปชนคานอีกครั้ง
จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้ จบเกมโครเอเชียชนะตุรกี 1-0
