รมว.ยุติธรรม ปล่อยแถวประชาสัมพันธ์สร้างรับรู้ เข้าใจให้กับผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิง ลงพื้นที่สถานบริการย่านรามคำแหง ให้เข้มงวดยาเสพติด อาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการประสานกำกับติดตามผลการดำเนินงาน ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558 เป็นประธานปล่อยแถวประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิง ที่สำนักงานเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยมี ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งการปล่อยแถวประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน อย่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมการปกครอง กรุงเทพมหานคร สรรพสามิต สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมกิจการเด็กและเยาวชน และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์และเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กว่า 100 คน โดยได้มีการลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิง ภายในซอยมหาดไทย หรือ ซอยรามคำแหง 65 และซอยลาดพร้าว122เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายสมศักดิ์กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย และตักเตือนให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงยุติธรรมมุ่งเน้น เพราะทุกวันนี้ผู้ต้องขังที่มีกว่าร้อยละ 80 เป็นคดียาเสพติด ยืนยันการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ได้มุ่งหวังทำลายหรือมาไล่จับกุมสถานบริการ แต่สถานบริการต้องทำตามกฎหมาย คือ ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้อายุไม่ถึง 20 ปี ไม่เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่ให้พกพาอาวุธ หรือนำยาเสพติดเข้าไปในร้าน รวมทั้งไม่ยอมให้มีการเล่นการพนัน และการค้ามนุษย์ ที่สำคัญสถานบริการที่มีคำสั่งปิด 5 ปีแล้ว ต้องไม่เปิดให้บริการอีกจนกว่าจะครบกำหนด ส่วนร้านที่อยู่ในเขตพื้นที่โซนนิ่ง หากพบว่ามีการทำความผิดดังกล่าวจะถูกสั่งปิดเป็นการถาวร สถานที่นี้จะห้ามขายเหล้าเบียร์โดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,0000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ