“ราเมศ” ชี้เหตุไม่มีชื่อ “อภิสิทธิ์” เป็นกมธ.แก้ รธน. เพราะวิปรบ.ไม่ชัดเจนว่าจะหนุนนั่งประธานหรือไม่ ยันการเสนอชื่อเป็นมติจากพรรค “อภิสิทธิ์” ไม่เกี่ยวด้วย
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงเหตุที่ไม่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรค เป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคได้มติหนุนนายอภิสิทธ์เป็นประธาน กมธ. โดยจากที่พรรคได้มอบนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปพรรค ไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล และกลับมารายงานที่ประชุมพรรคว่า วิปรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในการสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นประธาน กมธ. พรรคจึงมีมติที่จะเสนอชื่อบุคคล 4 รายชื่อตามที่เป็นข่าวไปแล้ว ยืนยันพรรคมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่เริ่มแรก ที่ประกาศร่วมรัฐบาล ส่วนการไม่เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เพราะเมื่อไม่มีความชัดเจนจากวิปรัฐบาล ในตำแหน่งประธาน กมธ.เราจึงมีความชัดเจนในที่ประชุม ส.ส. เมื่อถามว่า การที่ตั้งเงื่อนไขว่า หากไม่ได้เป็นประธานกมธ. จะไม่รับตำแหน่งในส่วนนี้ แสดงให้เห็นถึงความไม่มีสปีริตใช่หรือไม่ นายราเมศกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนแรกๆ ที่มีความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีบทบาทที่สำคัญ เมื่อครั้งทำประชามติก็ชัดเจนที่สุดว่านายอภิสิทธิ์ไม่รับรัฐธรรมนูญ ดังนั้นต้องแยกส่วนออกจากกัน และทุกอย่างเป็นไปตามมติที่ประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อถามว่า ปชป.ยอมถอยง่ายไปหรือไม่ ดูแลเงื่อนไขเรื่องเสียงสนับสนุนไม่แข็งแรงพอที่จะทำให้ ปชป.ถอนตัวง่ายๆ แบบนี้ หรือมีการต่อรองในเรื่องอื่น นายราเมศกล่าวว่า คิดว่าต้องแยกอออกจากกัน กระบวนการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่เริ่มจากพรรคการเมือง ดังนั้น การที่เราเสนอนายอภิสิทธิ์เพราะเห็นว่าเหมาะสม แต่หากจะเอามารวมกันแล้วบอกว่ามีผลต่อการร่วมรับบาลหรือไม่ ตนว่าเป็นคนละประเด็นกัน หากพรรคร่วมรัฐบาลเห็นแตกต่างจากพรรค ปชป. เราก็ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ทั้งนี้ คิดว่าสิ่งที่ต่อรองได้ดีที่สุดคือคุณภาพของคนที่จะเข้าไปทำงาน เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์เคยบอกว่าจะรับตำแหน่งนี้หรือไม่ มีแต่คนอื่นพูด นายราเมศกล่าวว่า เป็นการเห็นพ้องต้องกันของส.ส.พรรค เป็นส่วนของพรรคอย่างแท้จริง แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็น ส.ส. ดังนั้นท่านจึงยังไม่เคยเข้ามาประชุมร่วมกับ ส.ส. และกระบวนการทั้งหมดเสนอชื่อจนถึงตอนนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวด้วยเลย เนื่องจากเป็นมติจากที่ประชุม ส.ส.พรรคว่านายอภิสิทธิ์คือคนที่เหมาะสมเท่านั้น
