ชาวยโสธรแห่ร้องทุกข์ “อนาคตใหม่” เปิดเวทีรับฟังปัญหาที่ดิน ชี้คำสั่งคสช. ต้นตอป่วนทั้งประเทศ

วันที่ 15 ธันวาคม ที่วัดป่าสระแก้ว ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้จัดเวทีรับฟัง “ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” มีตัวแทนของประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสานกว่า 3,000 คน เข้าร่วมเพื่อสะท้อนปัญหาของแต่ละพื้นที่ อาทิ ปัญหาถูกขับไล่จากที่ดินทำกินที่อยู่มาเนิ่นนานจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ปัญหาผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยมีส.ส. พรรคอนาคตใหม่ในพื้นที่ภาคอีสานร่วมพบปะกับประชาชนในครั้งนี้ อาทิ นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะ รองประธานกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายคารม พลพรกลาง นายองค์การ ชัยบุตร นายสำลี รักสุทธี และได้รับแจ้งว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเดินทางมาร่วมรับฟังปัญหาและรับหนังสือร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนด้วย

นายอภิชาติ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ตลอดการทำงานของ กมธ.การที่ดินฯ ชุดปัจจุบัน มีปัญหาของพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาแล้วราว 200-300 เรื่อง มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 12 ล้านคน โดยส่วนใหญ่มาจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเรื่องนี้ไม่เฉพาะแต่ในภาคอีสานเท่านั้น แต่กระทบไปทั่วประเทศ มีคดีความเกี่ยวข้องกว่า 9 หมื่นคดี และที่สำคัญมีการใช้มาตรการรัฐที่เข้มข้นในการจัดการ ทั้งจับกุม ดำเนินคดี ไล่รื้อถอน ตัดโค่นพืชผลทางการเกษตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก ซึ่งในส่วนของ กมธ.การที่ดินฯ การแก้ปัญหา ระยะสั้น จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทุเลาการบังคับเรื่องคดีความ ตลอดจนผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ขณะที่ระยะยาว มีความจำเป็นต้องศึกษาให้เห็นถึงปัญหา โดยเฉพาะปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดิน ซึ่งมีอยู่หลายฉบับมาก และกระจายอยู่กับหลายกระทรวง ไม่มีความเป็นเอกภาพ อีกทั้งต้องรับรองสิทธิชุมชนอย่างแท้จริงด้วย

Advertisement

“ผมคิดว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ เราต้องทำให้เรื่องปัญหาที่ดินเป็นวาระแห่งชาติ ส.ส.ในฐานะตัวแทนของประชาชนต้องพูดเรื่องนี้ให้มากขึ้น ดังขึ้น พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เสียดายที่ไม่มีอำนาจบริหาร อย่างไรก็ตาม ได้ใช้กลไกของ กมธ.ทำการศึกษา โดยเฉพาะที่ได้เสนอญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจาก ม.44 และประกาศคำสั่ง คสช. แต่น่าเสียดาย แม้ว่าจะชนะจนเกือบตั้งกมธ.ได้ แต่ ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาลไม่ยอม ใช้กลไกพลิกแพลงโหวตใหม่จนไม่สามารถตั้ง กมธ. ดังนั้น ผมคิดว่าประชาชนต้องออกมาส่งเสียงให้ดังขึ้นอีก ให้ ส.ส.ที่ไม่ฟังเสียงประชาชนเหล่านี้ได้ยิน ทำให้รู้ว่า อำนาจที่พี่น้องประชาชนมอบให้นั้น ต้องใช้ทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อใช้รักษาความมั่นคงหรือสืบทอดอำนาจให้กับใครคนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง” นายอภิชาติ กล่าว

นายอภิชาติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กมธ.ชุดที่พรรคอนาคตใหม่เป็นประธาน นั่นคือ กมธ.การที่ดินฯ ซึ่งมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน และตนเองเป็นรองประธาน รวมถึงกมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นประธาน จะเข้ามาศึกษาและทำข้อเสนอในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่เองก็จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปัญหาที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าถึงพี่น้องประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และทำนโยบายออกมาให้ตอบสนองความต้องการพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image