สปสช. ลั่นไม่มีหน้าที่ดูแลนักโทษต่างชาติในเรือนจำ แต่ดูแลระบบสาธารณสุขให้ทุกคน ตามโครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข”
จากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ทำเรื่องขอเงินกองทุนยาเสพติดจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) จำนวน 34 ล้านบาท รักษานักโทษต่างชาติกว่า 9,000 ราย เนื่องจากจำนวนนักโทษดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ใช้บัตรทอง ระบุปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตในเรือนจำกว่า 1,170 ราย ส่วนใหญ่เป็นการติดโรคมาก่อนจำคุก
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นคือ 1.การดูแลภายใต้การทำงานของ สปสช. จะดูแลเฉพาะประชาชนที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก กล่าวคือ คนไทยทุกคนรวมถึงผู้ต้องขังในเรือนจำ 2.ส่วนของผู้ต้องขังชาวต่างชาติที่กรมราชทัณฑ์ได้ของบประมาณไปยัง ป.ป.ส.นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นก็จะกลายเป็นภาระของโรงพยาบาล(รพ.) ในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการให้บริการ 3.สิ่งแวดล้อม การควบคุมป้องกันโรคภายในเรือนจำ สปสช.มีหน้าที่ดูแลในภาพรวมให้ทั้งหมดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรในการช่วยเหลือผู้ต้องขังต่างชาติเหล่านี้ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สิ่งที่กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการของบจาก ป.ป.ส.เป็นสิ่งที่ทำถูกต้องแล้ว ทั้งนี้ยังต้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานฑูตของประเทศผู้ต้องขัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ดังนั้นจึงเป็นภาระของรพ.ที่เข้าไปช่วยเหลือในการรักษา
“ผู้ต้องขังในเรือนจำที่เป็นคนไทย สามารถใช้บัตรทองเหมือนคนทั่วไปได้ และขึ้นทะเบียนตรงกับรพ.ต่างๆ โดย สปสช.จะดูแลให้หมด เช่น เรื่องฟัน วัณโรค เอดส์ เรื่องโรคต่างๆ รวมถึงโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้ ในการดูแลทุกเรือนจำในการดูแลผู้ต้องหา” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
