‘มีชัย’ฝาก ตร.เป็นกลางลงประชามติ-ปฏิรูปตำรวจ ตั้งกก.อิสระ ตีกรอบ1ปี

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ห้องจูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดสัมมนาเรื่องการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงใน ตร. ข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ผู้บังคับการ (ผบก.) และหัวหน้าสถานีตำรวจ ทั่วประเทศ 2,064 นาย ร่วมรับฟัง มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เป็นประธานเปิดงาน

มีชัย2

โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ บรรยายในหัวข้อสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ในร่างรัฐธรรมนูญนี้มีการปฏิรูปกระบวนการหลายอย่าง มีข้อบังคับเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมที่ขาดระเบียบ แก้ปัญหาการทุจริตที่มีการร้องเรียนกันมาก ขจัดคนทุจริตทั้งในวงราชการและในการเลือกตั้ง การเมือง ทำให้คนทุจริตในชาตินี้ไม่สามารถกลับสู่วงจรราชการ วงจรการเลือกตั้งได้อีก

นายมีชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิรูปตำรวจนั้นมองว่าตำรวจเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย งานตำรวจมีสิ่งยั่วใจมากมายให้ตำรวจไม่สามารถปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง จึงจำเป็นต้องปฏิรูปตำรวจ ที่เป็นต้นธารกระบวนการยุติธรรมให้กลไกของสายธารกระบวนการยุติธรรมไปด้วยดี ต้องถามตำรวจว่า ทั้งที่ตนเองมีอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายแต่มีเพียงกี่เปอร์เซ็นต์ที่ได้ตัดสินใจ บังคับใช้กฎหมายตามหน้าที่ หรือทุกวันนี้ยังต้องฟังคำสั่ง คำทัดทาน นโยบาย หากฟังจากผู้บังคับบัญชานั้นไม่เป็นไร แต่บางทีต้องฟังจากคนอื่น แล้วที่เป็นเช่นนี้จะเรียกว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้อย่างไร

Advertisement

นายมีชัยกล่าวด้วยว่า เหตุที่เป็นเช่นทุกวันนี้เพราะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น มีสิ่งผิดธรรมชาติคนที่ไม่ใช่ตำรวจสามารถกำหนดชี้การขึ้นสู่ตำแหน่งของตำรวจได้ ตนรู้จักอดีต ผบ.ตร.หลายคน เคยคุยกันว่าในการแต่งตั้งแต่ละครั้งไม่มีคนของตัวเองมาช่วยทำงานเลย แต่ตนไม่อยากถามว่าที่ได้ตำแหน่งกันมานั้นคนของใคร ปัญหานี้จึงมาอยู่ในร่าง รธน.ว่าเราจะแก้เรื่องนี้ได้อย่างไรให้ตำรวจได้เติบโตด้วยผลงาน ใครอื่นมาเกี่ยวข้องไม่ได้ ต้องแก้กระบวนการเลื่อนลดปลดย้ายให้มีคุณธรรม ให้ตำรวจไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของใคร นอกจากผู้บังคับบัญชาที่ดี จะทำได้ตำรวจต้องมีผู้นำมีผู้บังคับบัญชาที่รักองค์กร พร้อมจะขับเคลื่อนแล้วตำรวจจะสามารถทำงานได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ ในร่าง รธน.นี้ พยายามออกแบบกฎหมายตัดเรื่องที่ต้องขออนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ออกไป เพราะการต้องขออนุญาตบ่อยครั้งกลายเป็นช่องทางทุจริต อย่างไรก็ตาม อยากให้ปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้นตาม รธน. ให้ใช้โอกาสนี้ให้สิทธิตำรวจจะเพิ่มค่าตอบแทนให้เทียบอัยการก็ยังสามารถทำได้ ให้ใช้โอกาสนี้ และยืนยันว่าจุดประสงค์ของการปฏิรูปเพื่ออยากให้ตำรวจดีขึ้น

จากนั้น นายมีชัยให้สัมภาษณ์ว่า ในร่าง รธน.ฉบับนี้ กำหนดให้มีการปฏิรูปตำรวจ กำหนดขั้นตอนว่าต้องมีการตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อดำเนินการปฏิรูปมี ผบ.ตร. อดีตตำรวจและบุคคลภายนอก ผสมผสานกัน เพื่อช่วยกันศึกษาการปฏิรูปตำรวจทั้งระบบทั้งกำลังคน การแต่งตั้งโยกย้าย ค่าตอบแทน ขวัญกำลังใจ เครื่องมือการทำงาน เพื่อให้ตำรวจสามารถทำงานได้ กำหนดเวลาเร่งรัดให้คณะกรรมการชุดนี้ปฏิรูปตำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี หากไม่เสร็จตามกำหนดบังคับให้การแต่งตั้งตำรวจพิจารณาตามความอาวุโสไปพลางก่อน ซึ่งจะเป็นการบังคับว่าการปฏิรูปตำรวจต้องทำให้แล้วเสร็จ

นายมีชัยกล่าวอีกว่า ในร่าง รธน.ว่าด้วยการปฏิรูปตำรวจให้ความสำคัญเรื่องการปฏิรูปการแต่งตั้งโยกย้าย ตำรวจทุกคนมีฝีมืออยู่แล้วแต่ไม่ได้ถูกใช้ตามฝีมือ หากการแต่งตั้งเป็นไปตามระบบคุณธรรมอย่างชัดเจนตำรวจจะสามารถทำงานได้ กฎเกณฑ์ในการสั่งการต้องไม่มีใครไปสั่งให้ตำรวจ ทำหรือไม่ทำตามหน้าที่ นอกจากนี้ ยังดูแลให้ตำรวจสามารถปฏิบัติตามกลไกกระบวนการยุติธรรม ร่วมกับอัยการศาลได้ด้วย ทำให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วมีพยานหลักฐานชัดเจนพอที่จะเป็นที่พึ่งพิงด้านความยุติธรรมได้อย่างมั่นใจ

Advertisement

นายมีชัยกล่าวว่า นอกเหนือจากการปฏิรูปในประเด็นการแต่งตั้ง การอำนวยความยุติธรรมแล้ว ยังพูดถึงการปฏิรูปค่าตอบแทน ที่ต้องไปคิดคำนวณในทางที่เป็นไปได้มีงบประมาณรองรับ เชื่อว่าใช้เงินไม่มาก เพราะหากเราสามารถขจัดทุจริตได้เงินมีเหลือเฟือ

“ในการออกเสียงประชามติร่าง รธน.ครั้งนี้ ขอช่วยตำรวจ 2 อย่าง คือ 1.ให้ไปช่วยอธิบายเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และ 2.ช่วยดูให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ตำรวจต้องเป็นกลางอยู่แล้ว ไปบอกอะไรใครไม่ได้” นายมีชัยกล่าว

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาล ตำรวจต้องสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ได้เรียกหัวหน้าโรงพักมารับทราบเรื่องการลงประชามติเพื่อนำไปขับเคลื่อนต่อ ตำรวจต้องไปอ่านร่าง รธน.ให้ครบทุกมาตรา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ

“ต้องเข้าใจร่าง รธน.ให้ถ่องแท้ ป้องกันพวกที่บิดเบือน เพื่อหวังผลการลงประชามติ ตอนนี้ดูอยู่ว่าภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการใดๆ อยู่ในกรอบกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ หรือไม่” ผบ.ตร.กล่าว

ผบ.ตร.กล่าวถึงศูนย์ปราบโกงฯของ นปช. ว่ามีความพยายามตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวทุกพื้นที่ก็ดูแล้วเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไร ยอมรับว่าตำรวจติดตามดูทุกมิติ ทั้งสั่งให้บก.ปอท.ติดตามความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียด้วย จริงๆ แล้วศูนย์นี้ควรไปร่วมกับ กกต.มากกว่า อะไรก็ตามหากสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายก็บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีอยู่แล้ว ไม่กังวลว่าจะการดำเนินการตามกฎหมายกับการตั้งศูนย์ปราบโกงจะกลายเป็นชนวนด้านการเมืองเพราะเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า การปฏิรูปตำรวจที่ระบุในร่าง รธน. สอดคล้องกับแนวคิดแนวทางที่ ตร.ศึกษา วันนี้จะชี้แจงให้ผู้ร่วมสัมมนาทราบถึงแนวทางการปฏิรูปตำรวจ ที่ ตร.คิดและศึกษาเอง โดยรวบรวมจากแนวทางของ สปท. สปช. ออกมาเป็นแนวทางปฏิรูปตำรวจที่กำหนดแผนไว้ระยะ 20 ปี ทั้งนี้ มั่นใจว่าหากร่าง รธน.ฯผ่านและมีผล การปฏิรูปตำรวจจะเสร็จทันตามกรอบเวลา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image