จากกรณีที่องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก(วาด้า) ได้ลงโทษห้ามนักกีฬาทีมชาติรัสเซียร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นานาชาติทั้งหมด รวมทั้งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก อย่างไรก็ตามนักกีฬาที่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีการเกี่ยวข้องกับสารต้องห้าม สามารถลงแข่งขันได้ในนามคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี) รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้รัสเซียสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 21 วัน ซึ่งให้ศาลกีฬาโลกเป็นหน่วยงานกลางในการตัดสิน
ทั้งนี้ สาเหตุที่รัสเซียถูกแบนจากการแข่งขันครั้งนี้ เพราะศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของรัสเซียได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลการตรวจสารต้องห้ามของนักกีฬา และวาด้าตรวจพบความไม่โปร่งใส
ในกรณีที่มีการแบนนักกีฬารัสเซีย และทีมวอลเลย์บอลหญิงรัสเซียโดนแบนไปด้วย จะทำให้เกาหลีใต้ซึ่งแพ้รัสเซีย ในรอบคัดเลือก จะได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบสุดท้ายแทนรัสเซีย ซึ่งทำให้เกาหลีใต้ไม่ต้องแข่งขันรอบคัดเลือก โซนเอเชีย และทีมตบสาวไทยแทบจะแบเบอร์ในรอบคัดเลือก มีโอกาสสูงที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกนั้น
ล่าสุด “บิ๊กติ๋ม” ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ รองประธานและเลขาธิการสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย(เอวีซี) แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า เป็นไปได้ยากที่รัสเวียจะไม่ได้ร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่จะถึงนี้ เพราะถึงวาด้าจะมีการแบนรัสเซียจริง แต่ถ้านักวอลเลย์บอลไม่ได้ถูกตรวจพบว่ามีสารต้องห้ามหรือมีความผิดก็สามารถลงแข่งขันภายใต้ธงของโอลิมปิกได้ ไม่ เหตุผลเดียวที่จะทำให้ได้ไม่ได้แข่ง คือ รัสเซียประกาศขอถอนทีมจากการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งก็ยังมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ด้านอเล็กซานเดอร์ อิฟเลฟ ประธานคณะกรรมการตรวจตราของศูนย์ตรวจสารต้องห้ามรัสเซีย ยืนยันว่าได้การยื่นอุทธรณ์การแบนนักกีฬารัสเซียจากการแข่งขันระดับนานาชาติ 4 ปีไปแล้ว
ขณะที่ยูรี่ กานุส หัวหน้าศูนย์ตรวจสารต้องห้ามรัสเซีย แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นหนทางที่จะอุทธรณ์โทษครั้งนี้ผ่านเลย
