ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุวพงศ์ จั่นฝังเพชร |
เผยแพร่ |
คําประกาศไม่ลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตามนั้น ถือเป็นสัญญาณทางการเมืองที่ชัดเจน
ชัดเจนว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่ยอมให้การครองอำนาจสะดุดหรือขาดตอนอย่างแน่นอน
การสืบทอด ยังต้องดำเนินต่อไป
จะ เล่นเอง หรือ ซ่อนรูป ค่อยว่ากัน และไม่น่าเป็นปัญหา
เพราะประโยคที่ตามมาของ การไม่ออก คือ ผมคือผู้กำหนดกติกา
ซึ่งหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ก็อาจยุ่งยากหน่อย เพราะ คสช.คงต้องไปคิดว่าจะทำอย่างไร ตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนาน
หรือแก้รัฐธรรมนูญ ใช้ทางลัดให้อำนาจ คสช.ปรับปรุงรัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งฉบับใดมาใช้เลย ซึ่งก็อาจทำให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่วางไว้
แต่ถ้าหากรัฐธรรมนูญผ่าน ทุกอย่างก็เดินไปตามโรดแมป
ซึ่งไม่ว่าจะทางไกล กรณีประชามติไม่ผ่าน หรือทางใกล้ กรณีประชามติผ่าน
สิ่งที่เหมือนกันคือ ยังอยู่ภายใต้อำนาจของ คสช.อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
และ คสช.นี่เอง จะต้องเขียน กติกา เพิ่มเติมขึ้นมาอีกชุด ซึ่งถือเป็นกติกา
ที่สำคัญ เพราะเป็นกติกาเพื่อ การปฏิบัติ
จะสืบทอดอำนาจเพื่อ ประโยชน์แห่งชาติ อย่างไรก็อยู่ที่กติกานี้
โดยหากรัฐธรรมนูญผ่าน ก็คงต้องเดินไปตามทางที่วางไว้นั่นคือ ให้คณะกรรมการ
ร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำโดย มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นผู้จัดทำพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญขึ้นมาอีกอย่างน้อยเก้าฉบับ คือ
(1) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(2) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
(3) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
(4) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
(5) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
(6) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(7) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
(8) พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(9) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
และอาจแถม (10) กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่มาทำหน้าที่กำกับการใช้เงินของรัฐให้ใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
โดยในบทเฉพาะกาล มาตรา 259 กำหนดด้วยว่า ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทํา พ.ร.บ.ประกอบฯ ทั้งเก้าฉบับ และกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ให้เสร็จภายในระยะเวลา
แปดเดือนนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกประกาศใช้
และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งก็คงเป็นช่วงกลางหรือปลายปี 2560
โปรแกรมนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงในกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ แต่หาก คสช.ยังยึดโรดแมปเดิม ก็คงเดินไม่ต่างจากเส้นทางนี้
ซึ่งนักการเมืองคงลุ้นระทึกในขั้นตอนนี้
ที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกมาตีปลาหน้าไซ กรณีจะมีการเซตซีโร่ล้างพรรคการเมืองเดิม และเปิดจดพรรคการเมืองใหม่ ก็อยู่ในขั้นตอนนี้แหละ
นั่นคือ ต้องดูว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จะเขียนออกมาอย่างไร
ซึ่งก็เป็นไปได้ ที่จะเป็นไปอย่างที่คาดหมายไว้
นั่นคือ หากมีใครคิดสืบทอดอำนาจ ก็คงต้องใช้จังหวะนี้แหละเขียนกติกาเพื่อ เอื้อต่อแนวคิดดังกล่าว
ที่ผ่านมา ก็เริ่มมีผู้โยนหินออกมาแล้วไม่ใช่หรือ
โดยเฉพาะที่บอกว่า ก็ไปคิดกันมาว่าทำอย่างไร ให้ผมอยู่ (เพื่อบ้านเมือง) ต่อ
ชัดแจ๋วขนาดนั้น เหล่าเนติบริกรที่แสนว่องไวมีหรือจะไม่สนอง