หมอชลน่าน จี้รัฐ เร่งแก้ระบบมั่ว ผลักเป็นนศ.-เกษตรกร-นักธุรกิจ วืดเยียวยาเพียบ

หมอชลน่าน จี้รัฐ เร่งแก้ระบบมั่ว ผลักเป็นนศ.-เกษตรกร-นักธุรกิจ ทำวืดเยียวยาเพียบ

 

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน เขต 2 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เรื่อง “สถานะ ไม่ได้รับสิทธิ” ระบุว่า

12 เม.ย เป็นวันแรกที่ SMS แจ้งกับผู้ลงทะเบียนที่ผ่าน AIด่านแรก ที่รอด้วยความหวัง อย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะได้รับเงินเยียวยา เดือนละ 5,000 บาท ความหวังสลาย สายตาพร่ามัว น้ำตาไหลร้องไห้ ก่นด่าด้วยความมึนงงสงสัย คับข้องใจ…

” ทำไม ??? บอกว่าเป็นเกษตรกร ?…ทำไมบอกว่าเป็นนักศึกษา ?..เอาอะไรมาตัดสิน ?..ทำไมบอกว่าเป็นเจ้าของธุรกิจ ?..AI มันตัดสินได้หรือ ?..เอาสมองส่วนไหนมาคิด ?..คนลงทะเบียนพร้อมกัน เหมือนกันทำไมเขาได้ ?..”

Advertisement

ล้วนแต่เป็นข้อสงสัยของพี่น้องประชาชน วันนี้ผมรอฟัง การแถลงข่าวของ ศบค. ก็ไม่มีคำชี้แจงในเรื่องเหล่านี้ มีแต่การระบายความทุกข์ใน Fb live สื่อโชเชี่ยลทั่วไป

สาเหตุหลักๆ ไม่ได้รับสิทธิในการเยียวยา ถูกแจ้งว่า

1.เป็นเกษตรกร
2.เป็นนักศึกษา
3.เป็นเจ้าของธุรกิจ

Advertisement

จึงร้องขอไปยัง รัฐบาล กระทรวงการคลังควรให้คนเหล่านี้ได้รับการอุทธรณ์ ทบทวน ตรวจสอบความถูกต้อง ผ่านกลไกของรัฐที่เชื่อถือได้ เป็นที่ยอมรับ หรือลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ แล้วต้องรีบให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว

กรณีบอกว่าเป็นเกษตรกร ต้องตรวจสอบกับการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ที่มีอยู่แล้ว 9 ล้านครัวเรือน ว่ามีอยู่จริง อย่าตรวจสอบกับฐานข้อมูลอย่างอื่น ซึ่งพี่น้องประชาชน อาจเคยลงบันทึกว่า”อาชีพเกษตรกร”

ตามพ่อแม่ เพราะฐานข้อมูลเรื่อง อาชีพของคนไทย ยังไม่เป็นจริง ไม่สอดรับกับสภาพความเป็นจริง หลายอาชีพไม่สามารถระบุได้ เป็นอาชีพที่ไม่มีอาชีพ นี้เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทะเบียน การให้สิทธิเยียวยามีปัญหา ซึ่งต้องเร่งแก้ไขกันต่อไปหลังวิกฤตโควิด

รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเข้าใจ เปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ที่เข้าถึงได้ ถึงมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทะเบียนได้แล้ว 24 ล้านคน ที่รอแจ้งสิทธิอยู่ ต้องแยกกลุ่มให้ชัด เพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือทุกๆกลุ่ม

เร่งช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเกษตรกร โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน ฟังเสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนได้เสีย อย่าชักเข้าชักออก เปลี่ยนเกณฑ์บ่อยๆ

คนที่ไม่ได้รับสิทธิ ที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจริงๆ ต้องได้รับความช่วยเหลือ การเอาผิดกับผู้ลงทะเบียน เป็นความผิดทางอาญา ต้องพิสูจน์เจตนาให้ชัด อย่าใช้อำนาจตีความกฎหมายบังคับข่มขู่ประชาชน

รัฐบาลต้องรีบทำ..จริงๆครับ ในภาวะวิกฤต ผู้คนเดือดร้อน..อย่าให้”ความคับข้องใจ”..แปรเปลี่ยนเป็น”คับแค้นใจ” เพราะมีถึง 16 ล้านคน แล้วหลายเรื่องจะเกิดการบานปลาย ยากต่อการควบคุมดูแล

ถึงตอนนี้ ต้องคำนึงถึงปากท้องความอดอยาก ควบคู่ไปกับการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น ให้ขับเคลื่อนไปด้วยกันได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image