‘เทพไท’ ตอกหน้า ‘ธนกร’ แกว่งปากหาศัตรูให้รัฐบาลได้ทุกวัน ชี้เจอจุดอ่อนก็ต้องวิจารณ์

“เทพไท” ตอกหน้าหงาย “ธนกร” อย่าแกว่งปากหาศัตรู ไม่เข้าใจหัวอกคนจน เพราะไม่ได้เป็น ส.ส.ชี้โครงการเราไม่ทิ้งกันมีจุดอ่อนจึงต้องวิจารณ์ เป็นกระจกสะท้อนให้รัฐบาลรับรู้

 

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.63 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรมว.คลัง และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาพาดพิงถึงการแสดงความเห็นโครงการเราไม่ทิ้งกันว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมนายธนกร จึงออกมาฟาดงวงฟาดงา พูดจาเสียดสี เหน็บแนม ทั้งๆที่ตนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในฐานะ ส.ส.คนหนึ่ง ไม่ได้เป็นการพูดเพื่อความอยากดัง หรือต้องการเป็นข่าวรายวัน หรือถ้าไม่พูดแล้วจะลงแดง ตามที่นายธนกรกล่าวหา จึงอยากเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ขึ้นมา ตนไม่ได้พูดประเด็นทางการเมืองเลย จะพูดแต่ปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชนเท่านั้น ที่ต้องพูดทุกวัน ก็เพราะความเดือดร้อนของประชาชนมีมากมาย พูดได้ทุกวัน ต่างกับนายธนกรที่ใช้สถานะโฆษกพรรค และเลขานุการรัฐมนตรีแกว่งปากหาศัตรูให้กับรัฐบาลได้ทุกวันเช่นกัน

“ในฐานะนักการเมืองรุ่นพี่ เคยทำหน้าที่โฆษกมาก่อน ขอสั่งสอน อบรมเด็กรุ่นน้อง ที่พูดจาพาดพิงดังนี้คือ 1.ผมเป็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จำเป็นต้องทำหน้าที่เป็นปากเสียง ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 2.ผมเป็น ส.ส.ที่ได้รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ต้องทำงานให้กับประชาชน ให้คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนที่ได้จ่ายเป็นค่าตอบแทนรายเดือนให้กับตนเอง 3.การเป็น ส.ส.ที่ดี ต้องทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน เมื่อประชาชนมาร้องทุกข์ หรือได้ความเดือดร้อน ก็ต้องทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง แสดงความคิดเห็น หรือต่อสู้ให้กับพี่น้องประชาชน 4.แม้ว่าผมเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แต่อีกบทบาทหนึ่ง คือฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะต้องตรวจสอบ ควบคุมฝ่ายบริหาร สามารถเสนอแนะ ท้วงติงข้อผิดพลาดในการทำงานของรัฐบาลได้ 5.โครงการ เราไม่ทิ้งกัน ของรัฐบาลมีข้อบกพร่อง หรือจุดอ่อนอีกหลายจุด ที่พรรคร่วมรัฐบาลสามารถเสนอแนะได้ เพราะแม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกันด้วยซ้ำไป

และ 6.การทำหน้าที่ ส.ส.ต้องทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบรัฐบาล และทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุข ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 นั้น ในฐานะที่เป็น ส.ส.คนหนึ่ง ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ได้พูดมากกว่าทำ เหมือนคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.บางคน ทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลโดยตรง” นายเทพไทกล่าว

Advertisement

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ฉะนั้นเมื่อโครงการเราไม่ทิ้งกันมีข้อบกพร่อง และไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับประชาชนได้ มีประชาชนถูกตัดสิทธิเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งรัฐบาลควรจะรับฟัง และนำไปแก้ไขมากกว่า การออกมาพูดจาเสียดสีโจมตี หรือดิสเครดิตทางการเมืองกัน เพราะข้อท้วงติง คำวิจารณ์ของทุกฝ่าย เป็นกระจกเงาให้กับรัฐบาลเพราะความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน คนเป็น ส.ส.สามารถสัมผัสได้โดยตรงมากกว่าคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ได้มาเพราะการแต่งตั้ง เมื่อไปอยู่ในตำแหน่งฝ่ายบริหาร ก็ไม่ได้ซึมซาบความรู้สึก และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะนั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง แต่กินเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชน เดือนละหลายหมื่นบาท โครงการเราไม่ทิ้งกันล่าช้าไป ก็ไม่เดือดร้อน แต่สำหรับประชาชนคนยาก คนจน การล่าช้า 2-3 วัน ก็ทำให้เขาเดือดร้อน อดอยาก ไม่มีข้าวกิน ต้องหาเช้ากินเช้า หรือหาเช้ากินค่ำ อยากให้คนที่อยากจะเป็น ส.ส.จนตัวสั่นได้เข้าใจหัวอกของคนจนบ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image