เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 63 นายนิพิฆฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ นายสุรพงษ์ โตวิจักจณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
(อ่านข่าวhttps://www.matichon.co.th/politics/news_2194492
โดยมีรายละเอียดคือ ขอแสดงความอาลัย ดร.สุรพงษ์ โตวิจักขณ์ชัยกุล
-ทราบข่าว มรณกรรมของ ดร.สุรพงษ์ โตวิจักขณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของท่าน
-ผมกับท่านรู้จักกันตอนท่านเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่ท่านจะย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทย ตอนอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ท่านเคยอภิปรายคุณทักษิณ ชินวัตร เรื่องการเปลี่ยนแปลงสัมปทานดาวเทียมอย่างรุนแรง จนท่านถูกบริษัท AIS ฟ้อง ผมเป็นทนายความสู้คดีให้ท่านที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนท่านชนะคดี ท่านจะจ่ายค่าทนายความให้ผม แต่ผมไม่รับ ผมบอกว่าผมปกป้องท่านในฐานะที่ท่านเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายท่านมอบแหวนหลวงพ่อทวดให้ผมวงหนึ่ง ผมใส่อยู่จนทุกวันนี้
-ในฐานะทนายความ ผมเคยไปบ้านท่านที่จังหวัดเชียงใหม่หลายครั้ง บ้านทรงไทยโบราณหลังใหญ่ สวยงาม ท่านซื้อบ้านทรงไทยเก่ามาเก็บไว้ แต่ท่านไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ ผมถามว่าทำไมไม่อยู่ บ้านสวยออก ท่านบอกว่า เคยมานอนเหมือนกัน แต่ได้ยินเสียงคนเดินบนบ้านทุกที สงสัยเจ้าของบ้านยังหวงอยู่ เลยไม่อยากรบกวนเจ้าของบ้าน ซื้อมาเก็บไว้สวยๆ อย่างนั้นแหละ ท่านชอบหมอดู มีหมอดูดังๆที่ไหน เป็นต้องไปดู ผมก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปนั่งฟังกับท่านด้วย แต่ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ฟังไปฟังมา บางทีก็สนุกดีเหมือนกัน เมื่อเราแยกพรรคกัน ท่านเป็นรัฐมนตรี ผมเป็นฝ่ายค้าน เจอกันท่านก็หลบๆผม ซึ่งก็เข้าใจได้ ตอนมีการชุมนุมใหญ่ทางการเมือง คัดค้านกม.นิรโทษกรรม ชื่อของท่านถูกกล่าวถึงบนเวทีบ่อยๆ บางครั้งผมก็กล่าวถึงท่านบ้างแต่ก็แค่หยอกๆสนุกๆ มากกว่าที่จะพูดให้ท่านเสียหาย ตอนท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ท่านคืนพาสปอร์ตให้คุณทักษิณ ชินวัตร ผมก็หวั่นๆว่าท่านจะโดนคดีอาญา สุดท้ายท่านก็โดนจริงๆถูกตัดสินจำคุกในเรื่องนี้แต่ศาลฎีการอโทษจำคุกไว้ให้
-ความสัมพันธ์ส่วนตัวของผมกับท่านยังดีอยู่ แต่เป็นความสัมพันธ์ในฐานะทนายความกับลูกความเสียมากกว่า ในฐานะนักการเมืองเราเหมือนเป็นนักมวย ไม่ว่าเราอยู่ฝ่ายแดงหรือฝ่ายน้ำเงิน เราก็ชกกันสมเกียรติ สมศักดิ์ศรีแล้ว เมื่อท่านถึงแก่มรณกรรม หากมีสิ่งใดที่เคยล่วงเกินกันก็ขออโหสิกรรมให้กันและกัน ขอดวงวิญญานท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพ
