คอลัมน์หน้า 3 : อำนาจ แนวโน้ม ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในพลัง ประชารัฐ

คอลัมน์หน้า 3 : อำนาจ แนวโน้ม ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในพลัง ประชารัฐ

คอลัมน์หน้า 3 : อำนาจ แนวโน้ม ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในพลัง ประชารัฐ

การไม่มีชื่อ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อยู่ในคณะกรรมการบริหารชุดใหม่

สามารถเข้าใจได้

เข้าใจได้เหมือนกับที่ไม่มีการส่งเทียบเชิญให้ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ร่วมอยู่ในขบวน 13 ขุนพล ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ

Advertisement

แต่นี่แม้กระทั่ง นายชวน ชูจันทร์ ก็หลุด

และเลเพลาดพาดไปถึง นายวิเชียร ชวลิต ซึ่งเคยเป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ไปถึง นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ซึ่งเคยเป็นเหรัญญิกพรรค

ทุกอย่างจึงเข้าลักษณะ “ล้างบาง”

Advertisement

อย่าได้แปลกใจหากจะมีน้ำเสียงยกย่องความเหมาะสม ความมีสปิริตของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เสียสละมาเป็นหัวหน้าพรรค ด้วยความตื่นเต้น

ทุกคนแทบจะตัด นายอุตตม สาวนายน ออกไปจากวงจร

หากมองจากมุมของ นายอุตตม สาวนายน หากมองจากมุมของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ หากมองจากมุมของ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

นี่ย่อมเป็นความโหดร้าย

ทั้งๆ ที่ในห้วงแห่งการก่อตั้งทุกสายตาในพรรคพลังประชารัฐมองภาพการเดินออกจากทำเนียบรัฐบาลเข้ามารับผิดชอบพรรคของ “กลุ่ม 4 กุมาร”

เป็นความเสียสละอันควรยกย่อง

แต่เวลาผ่านไปเพียง 1 ปี น้ำเสียงที่เคยยกย่อง เคยชมเชย ก็จางจากหายไป และก็มีความพยายามจะลบชื่อของ “กลุ่ม 4 กุมาร” ออกไป

เข้าลักษณะ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล

ท่วงทำนองอันโหดเหี้ยมและเลือดเย็นต่อ “กลุ่ม 4 กุมาร” เช่นนี้ไม่น่าจะมาจากความปรารถนาอย่างแท้จริงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างแน่นอน

คำถามก็คือ แล้วเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดขึ้น

หากว่าภายในพรรคพลังประชารัฐยังดำรงจุดมุ่งหมายในท่วงทำนองเดียวกันกับการจัดการ “กลุ่ม 4 กุมาร” ให้หมดสิ้นไปในลักษณะล้างบางเช่นนี้

น่าเป็นห่วงว่าจะมีความต่อเนื่องไปถึงการปรับ ครม.

ในเมื่อการตัดสินใจมิได้มาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากแต่มาจากกลุ่มอำนาจ “ใหม่” ภายในพรรคพลังประชารัฐ

แล้วเมื่อปรับ ครม.“กลุ่ม 4 กุมาร” จะเหลือ “พื้นที่” หรือ

ยิ่ง นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการคนใหม่ประกาศชื่อ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ของพรรค

อย่าว่าแต่ “กลุ่ม 4 กุมาร” จะหมดโอกาส

หากแม้กระทั่ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นผู้นำจิตวิญญาณของ “กลุ่ม 4 กุมาร” จะยังมีอะไรเหลืออยู่ในฐานะของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจได้อีก

ร่องรอยของ “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็จะไม่มีเหลืออยู่อีกเลย

สัญญาณอันเกิดขึ้น ดำรงอยู่ จากองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่คือ วิถีที่พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินไป

ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เท่ากับเป็นการก่อรูปของพรรคพลังประชารัฐ “ใหม่” เท่ากับเป็นการก่อรูปของอำนาจ “ใหม่” ในการต่อรองทางการเมืองอันแหลมคม

ท้าทายต่ออำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image