รายการสิงสา ซีซั่น 4 ระทึกใจ พาไปดูเสือโคร่งถูกขูดหินปูน(ชมคลิปรายการ)

รายการสิงสา ซีซั่น 4 ระทึกใจ พาไปดูเสือโคร่งถูกขูดหินปูน

ขึ้นชื่อว่าสัตว์ป่า พวกมันต้องอยู่ในป่า เกิด เติบโต ใช้ชีวิต และจบชีวิต ในพื้นที่ ที่ถือว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน มีธรรมชาติดูแล ประคับประคองให้เป็นไปตามวิถี
แต่เมื่อถึงคราวที่สัตว์ป่าเหล่านั้น ต้องพลัดพรากจากบ้านตัวเอง อัน มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่า จากน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่า จะเป็นการลักลอบซื้อขาย พื้นที่อยู่อาศัยถูกรุกราน เมื่อสัตว์ป่าเหล่านั้น มาอยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งมีสถานที่เลี้ยงดูสัตว์ป่าเหล่านี้อยู่ทั่วประเทศ แม้จะยากนักที่จะทำให้พวกมันมีความสุขที่สุดเหมือนกับการได้อยู่ในป่า แต่ภายใต้การดูแลดังกล่าวต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้

การตรวจสุขภาพสัตว์ป่าที่อยู่ในกรงเลี้ยง เป็นสิ่งที่ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้องทำกันเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี ต้องคอยดูแลตรวจสอบทั้งอาการภายนอกและภายใน

ไฮไลท์ของการตรวจสุขภาพบรรดาเสือโคร่งทั้ง 39 ตัว ในครั้งนี้ อยู่ที่ การขูดหินปูน ชุมพร และ ปะทิว 2 เสือสาว วัย 8 ปี เสือของกลางที่เจ้าหน้าที่จับมาได้จากรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน จ.ชุมพร
ชุมพร กับปะทิว เป็นเสือโคร่งอารมณ์ดี พวกมันค่อนข้างคุ้นเคยกับคน เพราะเจ้าหน้าที่จัดให้อยู่ในส่วนของส่วนแสดงสัตว์ ให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้

สัตวแพทย์หญิง(สพ.ญ.)สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ที่เป็นคนทำหน้าที่เจาะเลือดเสือโคร่ง และขูดหินปูน 2 เสือสาว

Advertisement

ช่องปากของเสือโคร่ง มีความสำคัญไม่ต่างจากของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ หากมีอาการผิดปกติ มีแผล มีการอักเสบของเหงือก ก็จะเป็นเหตุให้พวกมันใช้ชีวิตอย่างลำบาก และถ้าการอักเสบนั้นลุกลามไปมากๆเข้าก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้มันตายได้ การขูดหินปูนประจำปี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สัตวแพทย์จะต้องทำให้กับเสือในกรงเลี้ยงที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชดูแลอยู่

ติดตามการทำงานอย่างทุ่มเท เอาใจใส่ ในการดูแลสุขภาพสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง โดยทีมงานสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
จากรายการสิงสา ตอน ขูดหินปูนเสือโคร่ง ได้ที่นี่

Advertisement

"รายการสิงสา" ระทึกใจ พาไปดู เสือโคร่งถูกขูดหินปูน

ขึ้นชื่อว่าสัตว์ป่า พวกมันต้องอยู่ในป่า เกิด เติบโต ใช้ชีวิต และจบชีวิต ในพื้นที่ ที่ถือว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของมัน มีธรรมชาติดูแล ประคับประคองให้เป็นไปตามวิถี แต่เมื่อถึงคราวที่สัตว์ป่าเหล่านั้น ต้องพลัดพรากจากบ้านตัวเอง อัน มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่า จากน้ำมือของมนุษย์ ไม่ว่า จะเป็นการลักลอบซื้อขาย พื้นที่อยู่อาศัยถูกรุกราน เมื่อสัตว์ป่าเหล่านั้น มาอยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งมีสถานที่เลี้ยงดูสัตว์ป่าเหล่านี้อยู่ทั่วประเทศ แม้จะยากนักที่จะทำให้พวกมันมีความสุขที่สุดเหมือนกับการได้อยู่ในป่า แต่ภายใต้การดูแลดังกล่าวต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้การตรวจสุขภาพสัตว์ป่าที่อยู่ในกรงเลี้ยง เป็นสิ่งที่ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้องทำกันเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี ต้องคอยดูแลตรวจสอบทั้งอาการภายนอกและภายในไฮไลท์ของการตรวจสุขภาพบรรดาเสือโคร่งทั้ง 39 ตัว ในครั้งนี้ อยู่ที่ การขูดหินปูน ชุมพร และ ปะทิว 2 เสือสาว วัย 8 ปี เสือของกลางที่เจ้าหน้าที่จับมาได้จากรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน จ.ชุมพรชุมพร กับปะทิว เป็นเสือโคร่งอารมณ์ดี พวกมันค่อนข้างคุ้นเคยกับคน เพราะเจ้าหน้าที่จัดให้อยู่ในส่วนของส่วนแสดงสัตว์ ให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้สัตวแพทย์หญิง(สพ.ญ.)สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ที่เป็นคนทำหน้าที่เจาะเลือดเสือโคร่ง และขูดหินปูน 2 เสือสาวช่องปากของเสือโคร่ง มีความสำคัญไม่ต่างจากของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ หากมีอาการผิดปกติ มีแผล มีการอักเสบของเหงือก ก็จะเป็นเหตุให้พวกมันใช้ชีวิตอย่างลำบาก และถ้าการอักเสบนั้นลุกลามไปมากๆเข้าก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้มันตายได้ การขูดหินปูนประจำปี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สัตวแพทย์จะต้องทำให้กับเสือในกรงเลี้ยงที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชดูแลอยู่ติดตามการทำงานอย่างทุ่มเท เอาใจใส่ ในการดูแลสุขภาพสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง โดยทีมงานสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จากรายการสิงสา ตอน ขูดหินปูนเสือโคร่ง ได้ที่นี่

โพสต์โดย Matichon Online – มติชนออนไลน์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2020

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image