“ส.ว.”จี้รมว.ต่างประเทศแจงมาตรการรับมือหลังคลายล็อคให้เข้าประเทศได้ ด้าน“ดอน”ยัน เปิด Travel Bubble ต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจา เรื่องมาตรการคลายล็อคสำหรับคนไทยที่กลับจากต่างประเทศก่อนที่จะมีวัคซีนว่า ภาพรวมของการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเห็นว่าผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ขณะที่ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 14.7 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6 แสนราย โดยประเทศไทยอยู่ในช่วงคงที่และปลอดเชื้อ ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมา 50 กว่าวันแล้ว ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านแม้จะมีผู้ติดเชื้อน้อย แต่มาตรการในการตรวจสอบผู้ที่ผ่านแดนยังหลงเหลือช่องทางทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนกลัว และประชาชนก็กังวลกรณีที่เครื่องบินจะนำคนไทยจากต่างประเทศกลับมาเป็นหมื่นคน จึงอยากทราบว่าวันนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์ขอกลับประเทศเหลืออยู่อีกเท่าไหร่ และจะใช้เวลานานแค่ไหน รวมทั้งแผนการคลายล็อคคนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยนั้นเป็นอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่า ตัวเลขตั้งแต่วันที่ 19-31 ก.ค.มีผู้แจ้งขอเดินทางกลับประมาณ 8,287 คน โดยที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. – 18 ก.ค. เดินทางกลับมาแล้วจำนวน 56,934 คน ในจำนวนคนที่เดินทางเข้ามามีจำนวน 310 คนที่ติดเชื้อ หรือ 0.5% ของทั้งหมด ยืนยันว่ากลไกควบคุมทั้งหมดที่กระทรวงต่างประเทศดูแลอยู่นั้นมีความเคร่งครัด เข้มข้น และเป็นระบบ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ ติดตามให้การช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศก่อนเดินทางกลับอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตามสอบสวนโรคก่อนเดินทางกลับ และคนไทยในต่างประเทศส่วนใหญ่ดูแลตัวเองดี ทำให้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศมีผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มาก ทั้งนี้ ส่วนการคลายล็อคให้เดินทางเข้าประเทศนั้น มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของ ศบค.สามารถรับมือได้ ขณะที่ข้อกังวลในเรื่องการเปิด Travel Bubble เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น เราจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าหากคลายล็อคแบบปล่อยเสรีทันที หลายประเทศก็คิดและพยายามทำเช่นนั้น ซึ่งในที่สุดก็กลับพบปัญหาการระบาดอีกครั้ง และแม้จะเปิดเสรี ก็ใช่ว่าต่างประเทศจะมาปฏิสัมพันธ์กับประเทศเราได้ เพราะประเทศเขายังมีการติดเชื้ออยู่ จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ ประชาชนการ์ดไม่ตก ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เชื่อว่าเราจะรับมือกับสิ่งที่เกรงกลัวกันว่าจะทำให้เกิดการระบาดรอบ 2 ได้
