ภท. เตรียมออกร่างพรรคร่วมรบ. หวังรัฐสภามติเอกฉันท์แก้รธน.
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงการยืนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ว่า ในภาพรวมในการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องมีเสียงส.ส. 100 เสียง แต่พรรคภท.มีเพียง 61 เสียง จึงไม่สามารถยื่นร่างเองได้ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ก่อนเช่นกัน จะมีก็เพียงพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่มีเสียงเกิน 100 เสียง ดังนั้นจึงต้องเป็นการร่วมลงชื่อเพื่อยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนนูญ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องหารือกันในเรื่องนี้ โดยการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ในนามรัฐบาล แต่เป็นในนามของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นแนวทางรวมกัน โดยหลักการได้เนินเรื่องการเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 256 และจะต้องมีสภาร่างรัฐธรรมนญ(ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนประชาชนเข้ามาร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะไม่แต่ต้องหมวด 1และ 2 เด็ดขาด ส่วนโครงสร้างของส.ส.ร. 200 ต้องมาดูว่านอกจากการเลือกตั้งแล้ว จะมีสัดส่วนของภาคนักวิชาการมากน้อยแค่ไหน เรืองนี้ต้องมาคุยกันอีกที
เมื่อถามว่าหลักการของส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ใกล้เคียงกับของส.ส.ฝ่ายค้าน นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญหลายคนมีความเห็นที่ใกล้เคียงกัน เพราะต้องเริ่มที่มาตรา 256 เพื่อเปิดประตูการแก้รัฐธรรมนูญ และให้มี ส.ส.ร. มาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน แต่ ส.ว. อาจจะไม่เอาด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าทุกคนจะเห็นตรงกัน เห็นถึงปัญหา และต้องแก้ไขให้สำเร็จ เมื่อถึงวันประชุมร่วม 2 สภา มติอาจเป็นเอกฉันท์ก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักการของพรรคภท. คือ เมื่อเราเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย ให้ส.ส.ร. จากประชาชน มาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แล้ว ทุกๆ ประเด็น ที่จะมีการแก้ไข ขอให้ส.ส.ร. มีอิสระในการพิจารณา และนำเสนอ โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำของพรรคการเมือง และนักการเมือง ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย จากกฎ กติกา ต่างๆ ที่จะถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรม นูญ เว้นแต่หมวด 1 เกี่ยวกับรูปแบบของรัฐ รูปแบบการปกครอง และ หมวด 2 สถาบันพระมหากษัตริย์ เราขอให้คงไว้ทั้ง 2 หมวด เพราะเป็น การรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนหมวดอื่นๆ จะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. หรือ องค์กรต่างๆ ให้เป็นสิทธิของส.ส.ร. ที่มาจากประชาชน พิจารณาแก้ไขได้อย่างอิสระ
