บ.ไทยแพ้คดีลิขสิทธิ์อุลตร้าเเมน ศาลไม่รับฏีกา หลังแพ้มา2ศาล บังคับชดใช้เฉียด6ล้าน

ศาลไม่รับฎีกาคดีบริษัทไทย พิพาทคดีลิขสิทธิ์ บริษัทญี่ปุ่นหลัง เเพ้คดีอุลตร้าเเมน มา2ศาลบังคับตามอุทธรณ์สั่งชดใช้เกือบ6ล้านพร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปีสั่งห้ามอ้างลิขสิทธิ์ตัวละครอีกต่อไป

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน นี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นัดอ่านคำสั่งเรื่องขออนุญาตฎีกาในคดีที่ บริษัท ซีบูราญ่าโปรดัคชั่นส์ จำกัด (บริษัทประกอบถาพยนต์ญี่ปุ่น)เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมโพธิ แสงเดือน(เจ้าของไชโยโปรดักชั่นส์ ฯ),นายพีระศิษฎ์ แสงเดือนฉาย ,บริษัท ซีบูราญ่าไชโย จำกัด บริษัท ไชโยโปรดักชั่นส์ จำกัด ,นายสิทธิชัย รุจิภาสกุล ,บริษัท ที่ไอจีเอ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-6เรื่องลิขสิทธิ์ค่าสินไหมทดแทน เกี่ยวกับตัวการ์ตูนยอดมนุษย์ อุลตร้าแมน เเละตัวละครอื่นรวมถึงผลงานด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องอันมีลิขสิทธิ์

คดีนี้จำเลยที่ 1,2,4และที่ 6ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาพร้อมฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่าฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ว่าก่อนฟ้องคดีนี้ศาลประเทศญี่ปุ่นมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ 1 ชนะคดีโดยฟังว่าสัญญาพิพาทเป็นสัญญาที่ถูกต้องแท้จริงสิทธิของจำเลยที่ 1ในการใช้งานลิขสิทธิ์ของโจทก์มีเขตพื้นที่ทั่วโลกยกเว้นในประเทศญี่ปุ่นย่อมได้รับความคุ้มครองในประเทศไทยด้วยศาลประเทศไทยจึงต้องบังคับตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลประเทศญี่ปุ่นทั้งนี้ตามหลักการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่งและตามความตกลงว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้านั้นไม่เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะและความสงบเรียบร้อยของประชาชนและฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 585/2561 และคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดของศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ 2351/2548ที่วินิจฉัยยอมรับคำพิพากษาของศาลต่างประเทศมาใช้บังคับกับศาลประเทศไทยนั้นไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญขัดกับคำพิพากษาหรือคำสั่งอันถึงที่สุดของศาลอื่น และไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญซึ่งยังไม่มีแนวคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกามาก่อนส่วนฎีกาของจำเลยที่ 2,4และ6ที่ว่าที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่พิจารณาบังคับตามคำพิพากษาของศาลประเทศญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นการไม่อนุวัติการตามอนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรมซึ่งประเทศไทยญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาชนจีนต่างเป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาดังกล่าว และฎีกาของจำเลยที่ 2.4เเละ6 ที่ว่าจำเลยที่ 1,2,4เเละ6 ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้นไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษขัดกับคำพิพากษาหรือคำสั่งอันถึงที่สุดของศาลอื่นไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญซึ่งยังไม่มีแนวคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกามาก่อนและไม่เป็นกรณีที่การวินิจฉัยของศาลฎีกาจะเป็นการพัฒนาการตีความกฎหมายจึงไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณา คดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539มาตรา 40วรรคหนึ่งประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249วรรคสอง (1) (3) (4) (5) จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1,2,4เเละ6ฎีกา

ยกคำร้องขออนุญาตฎีกาไม่รับฎีกาของจำเลยที่ จำเลยที่ 1,2,4เเละ6 และยกคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่จำเลยที่ 1,2,4เเละ6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางซึ่งเป็นศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560ให้ฝ่ายจำเลยยกเว้นจำเลยที่ 5 เเพ้คดีละเมิดงานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ทำให้ได้รับความเสียหาย พิพากษาให้จำเลยที่ 1,2,3 ร่วมกันชำระค่าสินไหมทดแทน 7ล้านบาท บาทส่วนจำเลยที่ 6ร่วมชำระจำนวน 5ล้านบาทและจำเลยที่ 4ร่วมชำระจำนวน 2ล้าน บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันมีคำพิพากษาไปจนถึงวันที่จำเลยที่1,2,3,4เเละ6 จะชำระเสร็จแก่โจทก์ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 5 ห้ามจำเลยที่ 1,2,3,4เเละ6 อ้างสิทธิในงานลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนใด ๆ รวมทั้งจัมบอร์กเอซและอันโดรเมรอสของโจทก์และห้ามมิให้อนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิดังกล่าว ให้จำเลยที่ 1,2,3,4เเละ6ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ค่าขึ้นศาลให้ใช้เท่าที่โจทก์ชนะคดีกำหนดค่าทนายความให้2เเสนบาทคำขออื่นให้ยก

Advertisement

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1,2,3ร่วมกันชำระเงิน 5,714,000 บาทโดยให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดในเงินจำนวนดังกล่าว 4,081,000บาท กับให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดในเงินจำนวนดังกล่าว 1,632,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับ แต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 8พ.ค.51) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ห้ามจำเลยที่ 1,2,4เเละ6 อ้างสิทธิในงานลิขสิทธิ์อุลต้าเเมนใดๆเเละอันโดรเมรอสของโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 5ในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้เป็นพับ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามส่วนที่จำเลยที่ 1,2,4เเละ6ชำระเกินแก่จำเลยที่ 1,2,4และที่ 6 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง(ศาลชั้นต้น)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image