สืบเนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ หนุง’ง หนิง’ง (ไม่ดีเอง) แชร์ข้อความขอความช่วยเหลือ เนื่องจาก น.ส.สุมลทิพย์ ตุ๋นกลิ่น อายุ18 ปี ชาวสกลนคร ถูกลักพาตัวไปทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 โดยจุดที่ลักพาตัวอยู่ที่บ้านห้วยไห ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กยังระบุว่า ชายที่ลักพาตัวไปได้ปลอมเฟซบุ๊ก พร้อมส่งรูปและข้อความเสียงมาขู่จะฆ่า เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โพนสวรรค์ แล้ว แต่เข้าไปไม่ถึง ก่อนจะเข้าไปแจ้งความต่อที่ สภ.นาหว้า แต่ตำรวจไม่รับเรื่อง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนมได้ติดต่อสอบถามไปยัง สภ.นาหว้า และ สภ.โพนสวรรค์ ทราบเบื้องต้นจาก สภ.นาหว้า ว่า ในวันที่ 29 กันยายน มีคนมาแจ้งความจริง แต่เมื่อทราบว่าเหตุเกิดที่บ้านห้วยไห ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จึงแนะนำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวรอพนักงานสอบสวนก่อน เพื่อประสานไปยัง สภ.โพนสวรรค์ ดำเนินการติดตามตัวคนร้ายและหญิงสาว แต่ผู้แจ้งไม่รอ พากันกลับไป และโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว
ขณะที่ สภ.โพนสวรรค์ ให้ข้อมูลว่าไม่มีผู้ใดมาแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่เพื่อความชัดเจนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลบ้านค้อ ลงไปสอบถามกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดให้รายละเอียดได้ เพราะไม่คุ้นชื่อหญิงสาวตามที่ระบุในเฟซบุ๊ก
ต่อมา มีผู้ให้เบอร์โทรศัพท์บุคคลที่โพสต์ข้อความ จึงประสานติดต่อ ทราบว่าหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวไปชื่อ น.ส.สุมลทิพย์ ตุ่นกลิ่น หรือกิ๊ฟ อายุ 18 ปี ชาว ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร และผู้โพสต์ทราบว่าชื่อ น.ส.กรรณิการ ดวงคุณ หรือหนุงหนิง อายุ 19 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนสวรรค์ ได้เดินทางไปรับตัวที่อำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนคร รอยต่อกับอำเภอโพนสวรรค์ เพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริง
เบื้องต้น น.ส.ศิริพร สรศิลป์ หรือน้ำ อายุ 22 ปี ชาวบ้านหนองปลาดุก ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเป็นพี่สาวต่างบิดากับน้องกิ๊ฟ เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 29 กันยายน 2563 ตนมีแฟนอยู่ที่บ้านห้วยไห หมู่ 5 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และนัดหมายกันจะมาเที่ยวบ้านแฟน จึงชักชวนน้องกิ๊ฟมาเป็นเพื่อน โดยนั่งรถโดยสารสองแถวมาลงที่ ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร จากนั้นแฟนหนุ่มก็ขี่รถจักรยานยนต์มากับน้องชายคนละคัน ตนนั่งซ้อนท้าย จยย.แฟน ส่วนน้องกิ๊ฟนั่งซ้อนท้าย จยย.น้องชายของแฟน พากันเดินทางมาบ้านห้วยไหที่อยู่ห่างจาก ต.ท่าแร่ ประมาณ 20 กม.เศษ
น.ส.ศิริพรเล่าต่อว่า พอรถจอดหน้าบ้านแฟน ปรากฏว่ามีนายเล็ก ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี อดีตสามีเก่าของน้องกิ๊ฟ แอบมาซุ่มอยู่บริเวณนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ พร้อมกับลูกสาวอายุวัยไล่เลี่ยกันกับน้องกิ๊ฟ ซึ่งเป็นลูกติดสามี โผล่ออกมาจากที่ซ่อน แล้วกระชากตัวน้องกิ๊ฟลงจากรถไปขึ้น จยย.ที่จอดไว้ ซึ่งขณะนั้นน้องกิ๊ฟร้องขอให้คนช่วย แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป ส่วนลูกสาวของนายเล็กก็ช่วยพ่อลากน้องกิ๊ฟขึ้น จยย.จนสำเร็จ แล้วรีบขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงพากันแจ้งความกับตำรวจ สภ.นาหว้า แต่มาผิดโรงพัก ประกอบกับมีกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.วนเวียนบริเวณนั้น จึงคิดว่าเป็นพรรคพวกของนายเล็กจึงเกิดความหวาดกลัว ได้พากันกลับบ้านที่สกลนคร โดยไม่ได้ไปแจ้งความที่ สภ.โพนสวรรค์ แต่อย่างใด
“ทุ่มเศษๆ ของวันเดียวกัน นายเล็กได้ส่งภาพน้องกิ๊ฟถูกพันธนาการด้วยโซ่ และแก้ผ้าช่วงล่างส่งมาให้ โดยญาติพี่น้องของน้องกิ๊ฟเห็นทุกคน พร้อมข่มขู่ว่าถ้าไปแจ้งความจะฆ่ายกโคตรทุกคน ทำให้เกิดความกลัวว่าจะถูกนายเล็กมาฆ่าตามที่ขู่ไว้” น.ส.ศิริพรกล่าว
ด้าน น.ส.กรรณิการ ผู้ลงโพสต์ในเฟซบุ๊ก เล่าว่า หลังน้องกิ๊ฟถูกนายเล็ก อดีตสามีลักพาตัวไป ก็กลับมาปรึกษากับญาติๆ ทุกคน แนะนำว่าควรลงโพสต์ขอความช่วยเหลือให้ติดตามหาตัวน้องกิ๊ฟ ตนจึงตัดสินใจลงโพสต์ดังกล่าว อยากวิงวอนให้นายเล็กปล่อยตัวน้องกิ๊ฟกลับมาอย่างปลอดภัย
สำหรับนายเล็กอดีตสามีของน้องกิ๊ฟ เบื้องต้น พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ทราบว่าเป็นบุคคลไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อยู่กินกับน้องกิ๊ฟมาเป็นเวลา 6 ปี แต่ไม่มีลูกด้วยกัน และมีภรรยาหลายคน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเล็กเป็นคนอารมณ์รุนแรง ทุบตีน้องกิ๊ฟอยู่เป็นประจำ จนทนไม่ไหวจึงหลบหนีไปอยู่กับญาตินานเกือบครึ่งปี แต่นายเล็กก็ตามจนเจอ ล่าสุดประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายเล็กจับน้องกิ๊ฟกล้อนผม เพราะเกิดความหึงหวงที่น้องกิ๊ฟบอกเลิกรา จึงประกาศว่าถ้าเลิกเมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับสัญญาณโทรศัพท์ของนายเล็กได้ว่าอยู่ในพื้นที่อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร คาดว่าคงได้ตัวในไม่ช้านี้ ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
