สทนช.ลุยเหนือจี้แผนอุดช่องก่อนแล้ง หลังรบ.อัดฉีดงบหนุนพัฒนาแหล่งน้ำ

สทนช.ลุยเหนือจี้แผนอุดช่องก่อนแล้ง หลังรบ.อัดฉีดงบหนุนพัฒนาแหล่งน้ำ

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการฝายห้วยหยวกพร้อมระบบส่งน้ำ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีข้อห่วงใยต่อโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณไปแล้วเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนจากภัยด้านน้ำให้แล้วเสร็จตามแผน

โดยมอบหมายให้ สทนช.เร่งติดตามแผนปฏิบัติงานโครงการต่างๆ ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทันกับสถานการณ์ สามารถลดผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำได้ทันแล้งนี้ โดยเฉพาะน้ำอุปโภค-บริโภค รวมถึงหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูแล้งที่จะถึงนี้หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ มีมติเห็นชอบแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2563/64 และ 9 มาตรการรับมือสถานการณ์แล้ง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันพื้นที่ภาคเหนือมีปริมาณน้ำใช้การทั้งสิ้นรวม 6,651 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 32% และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่า 30% ถึง 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำแม่มอก สามารถจัดสรรน้ำได้เพียงเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และเกษตรต่อเนื่อง หรือไม้ผล ไม้ยืนต้น โดยมีพื้นที่การเกษตรที่ต้องจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง จำนวน 4.35 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 0.55 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 3.80 ล้านไร่ ดังนั้น สทนช.จะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง และให้ประชาชนได้ระบผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับโครงการฝายห้วยหยวกพร้อมระบบส่งน้ำ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบกลางตามมติครม.เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ดำเนินการโดยกรมชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาการส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตร แบ่งเป็น ด้านการเกษตรประมาณ 100 ไร่ สำหรับปลูกข้าวและข้าวโพด และด้านการอุปโภค-บริโภคประมาณ 70 ครัวเรือน เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำหรับฤดูฝนและฤดูแล้งด้วย

Advertisement

“รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำรวมถึงเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศตามความต้องการในพื้นที่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้รับงบกลางจากมติคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 5 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 530 แห่ง ที่จะช่วยเพิ่มน้ำต้นทุนในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ อาทิ การขุดเจาะบ่อบาดาล และแหล่งน้ำต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่ง สทนช.จะมีการติดตามและประเมินผลให้โครงการต่างๆ แล้วเสร็จตามแผน เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนในฤดูแล้งนี้ได้ตามเป้าหมายต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image