คิด เห็น share : บ้านเกาะบุโหลนดอน ต้นแบบโครงการพัฒนาพลังงานสะอาด
วันนี้ผมมีตัวอย่างต้นแบบความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าบนเกาะบุโหลนดอน ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล โดยใช้ “พลังชุมชน” เป็นตัวขับเคลื่อน โดยสถานการณ์พลังงานของเกาะนี้ที่ไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาไม่ถึง ทำให้ในยามค่ำคืน ชุมชนต้องปั่นไฟฟ้าใช้เองจากเครื่องปั่นไฟขนาด 50 kW จ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนประมาณ 80 ครัวเรือน ในช่วงเวลา 18.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลา 5 ชั่วโมงแห่งความสุขของชาวบ้าน มีแสงสว่าง ได้ดูทีวี ใช้พัดลมคลายร้อน โดยชุมชนเหมาจ่ายค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 450-700 บาท ต่อ
ครัวเรือนต่อเดือน รวมทั้งค่าทำน้ำแข็ง (เพื่อการประมง) ในราคาเฉลี่ย เดือนละ 800-1,000 บาท แม้แรงดันไฟฟ้าจะต่ำเพียง 110 โวลต์ เนื่องจากสภาพเครื่องยนต์ที่ทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าบางตัวที่ต้องการแรงดันจากไฟฟ้ากระแสสลับเกิดการชำรุดเสียหายบ่อยครั้ง
ประเด็นที่น่าสนใจของโครงการนี้คือการที่มีภาคีร่วมพัฒนาจากหลากหลายหน่วยงาน มาร่วมคิดและหาทางแก้ไข โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนสำหรับจัดหาอุปกรณ์ เทคโนโลยีโดยทุนสนับสนุนโดยตรงจากสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย (Australia’s Direct Aid Program in Thailand) งบประมาณสนับสนุนด้านการจัดการความรู้ การลงพื้นที่ โดย องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) ดำเนินงานประสานความร่วมมือโดยองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม ReCharge Energy, สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กระทรวงพลังงาน และสำนักงานพลังงานจังหวัดสตูล โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมสนับสนุนเสริมพลัง (To Empower) ให้ชุมชนมีการรวมกลุ่มกันเพื่อบริหารจัดการโครงข่ายไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบ “โซลาร์โฮม” ระดับครัวเรือน (Solar Home System) โดยโครงการจัดหาเงินลงทุนและการอบรมความรู้ให้กับสมาชิกทั้งด้านเทคนิคการติดตั้ง การใช้งาน การซ่อมบำรุง และความรู้ด้านการบริหารจัดการกองทุนหมุนเวียนการเก็บเงิน เป็นต้น
รูปแบบการบริหารจัดการสมาชิกที่ได้รับการติดตั้งระบบ (Solar Home System) รูปแบบใหม่ คือ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง (LiFePo4) เพื่อนำมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสตรง DC 12 V ที่ประหยัดพลังงาน ปลอดภัย บำรุงรักษาง่าย ใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้รูปแบบการจ่ายเงินผ่อนชำระอุปกรณ์ ผ่านแอพพลิเคชั่นการออกรหัสเติมเงินให้สมาชิกนำรหัสไปเปิดการใช้งานที่บ้าน (Pay-As-You-Go)
โดยคณะทำงานเครือข่ายความร่วมมือ ได้ทำการลงพื้นที่ ทำประชาคมและให้ความรู้ความเข้าใจโครงการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานในระดับพื้นที่ และโดยเฉพาะประชาชนบนเกาะบุโหลนดอน จนสามารถจัดตั้งกลุ่มบริหารจัดการในชื่อ “กลุ่มพลังงานทดแทนและการออมเพื่อความยั่งยืนบ้านเกาะบุโหลนดอน” ปัจจุบัน ณ เดือนพฤศจิกายน 2563 กลุ่มพลังงานทดแทนฯ บ.เกาะบุโหลนดอน สามารถบริหารงานให้เกิดดอกผลและขยายผลการใช้พลังงานสะอาดด้วยระบบโซลาร์โฮมรวมทั้งหมด 26 ครัวเรือน (39 ระบบ) ผ่านระบบเติมเงินแบบ Pay-As-You-Go ทำให้สามารถเก็บเงิน-ออกรหัสให้สมาชิกได้ 100% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มมีกำไรสะสมอยู่ 20,150 บาท โดยคาดว่ากลุ่มจะนำกำไรสะสมต่อเดือนมาขยายสมาชิกเพิ่มจนกลายเป็นเกาะพลังงานสะอาด 100% ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ทางกลุ่มได้เพิ่มเติมกฎระเบียบ หรือ “บทบัญญัติชุมชน” ในเรื่องของค่าติดตั้งของช่างชุมชน
โดยมีค่าจ้างในการจ้างแรงงานแปรผันตามขนาดระบบที่ติดตั้งดังนี้
1.ระบบแบตชุดกลาง ทั้งที่มีหรือไม่มีพัดลมก็ตาม ระบบละ 300 บาท
2.ระบบแบตชุดกลางที่มีทีวี (จะมีหรือไม่มีพัดลมก็ตาม) ระบบละ 400 บาท
3.ระบบชุดใหญ่ที่เป็นชุดตู้เย็นและสถานีชาร์จ ระบบละ 500 บาท
4.ค่าเพิ่มทีวีพร้อมจูนจานดาวเทียมสำหรับสมาชิกเดิมที่เอาทีวีเพิ่ม ระบบละ 100 บาท
นอกจากชาวบ้านเกาะบุโหลนดอนจะได้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มีสเถียรภาพ และสะอาดแล้ว ยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพเกิดช่างชุมชนรับงานติดตั้งขยายผลระบบบนเกาะซึ่งราคาถูกกว่านำเข้าช่างจากภายนอกอีกด้วย
จะเห็นว่าการขับเคลื่อนเกาะพลังงานสะอาดด้วยพลังความร่วมมือจากหลายฝ่ายผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมนำไปสู่การเสริมอำนาจประชาชน (To Empower) เป็นระดับที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีบทบาทเต็มในการตัดสินใจ การบริหารงาน และการดำเนินกิจกรรมใดๆ เพื่อเข้ามาทดแทนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐดำเนินการหรือปฏิบัติงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับสูงสุดนี้เน้นให้ประชาชนเป็นเจ้าของดำเนินภารกิจและ ภาครัฐมีหน้าที่ในการส่งเสริมสนับสนุนเท่านั้น โดยโครงการจะมีการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนความรู้ สรุปบทเรียนนำปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมาและทำการแก้ไข มีการพัฒนาช่างชุมชนในการติดตั้ง ซ่อมบำรุงระบบโซลาร์โฮม การอบรมคณะกรรมการในการออกรหัสเติมเงิน การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย โดยกลุ่มสามารถนำผลกำไรมาขายผลเปิดรับสมาชิกใหม่ได้ด้วยตนเองทั้งหมด
ชุมชนจะเกิดการสะสมประสบการณ์ มีการพัฒนาศักยภาพ สามารถยกกระดับจากการเรียนรู้ของตัวบุคคลจากการปฏิบัติ เกิดเป็นการเรียนรู้แบบกลุ่ม สู่บ้านเกาะบุโหลนดอนชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อจัดการกิจการพลังงานสะอาดด้วยตนเองอย่างยั่งยืนในที่สุด ส่วนว่าจะขับเคลื่อนและขยายผลต่อในระดับนโยบายต่อไปอย่างไร จะขอทยอยมาเล่ากันต่อนะครับ…
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร
ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน