โควิด-19 ไวรัสแห่งศตวรรษที่ 21 เริ่มที่ปีที่ 20 และเสร็จสิ้นการระบาดในปีที่ 21

โควิด-19 ไวรัสแห่งศตวรรษที่ 21 เริ่มที่ปีที่ 20 และเสร็จสิ้นการระบาดในปีที่ 21

โควิด-19 ไวรัสแห่งศตวรรษที่ 21 เริ่มที่ปีที่ 20
และเสร็จสิ้นการระบาดในปีที่ 21

ก่อนอื่นผมขอออกตัวว่า ผมไม่ได้เป็นมด หมอที่ไหน ซึ่งอยู่ในภาควิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ผมเพียงจบปริญญา Ph.D.ทางภาคสังคมศาสตร์ ใคร่ขอแสดงความเห็นและพยากรณ์เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา-19 ซึ่งมีศัพท์ที่เรียกเป็นทางการว่า SARS-CoV-2 และขณะที่เขียน ไวรัสนี้ถูกตั้งชื่อโดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ของ U.N.ว่า โควิด-19 ซึ่งเริ่มระบาดไปทั่วโลกเมื่อ 22 กันยายน 2563 ตามเวลามาตรฐานสากล ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ในปี 2020 และผมคาดหวังว่าโรคแห่งศตวรรษนี้จะหยุดระบาดในปี 2021 ด้วยเหตุผลใด

มนุษย์เราได้เจอปรากฏการทำร้ายของไวรัสพันธุ์ต่างๆ ทำให้มนุษย์ต้องเสียชีวิตผ่านมาตามที่ทราบกันดีว่า มีการระบาดไปทั่วโลกทุกร้อยปี หรือทุกศตวรรษมาแล้วคือ

ปี ค.ศ.1720 (พ.ศ.2263) เกิดโรคระบาด “กาฬโรค” ปี ค.ศ.1820 (พ.ศ.2363) เกิดโรคระบาด “อหิวาตกโรค”

Advertisement

ปี ค.ศ.1920 (พ.ศ.2463) เกิดโรคระบาด “ไข้หวัดใหญ่” ชื่อ Spanish flu

ปี ค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา กลายพันธุ์

ช่วงชีวิตของมนุษย์ที่เกิดมีการระบาดไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ถึงสิ้นปี ธันวาคม 2020 ของคริสต์ศตวรรษที่ 21 พลเมืองโลกรุ่นนี้รวมทั้งประเทศไทยด้วย มีมนุษย์รวมกัน 5 รุ่น (Generation) นับแต่รุ่นชรา หรือรุ่นสูงอายุคือ Gen. เบบี้ บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือรุ่นเด็กเกิดมาก เป็นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังสงคราม ว่ากันว่าธรรมชาติทดแทนที่มนุษย์สูญเสียชีวิตมากจากสงคราม ลูกของคนรุ่นนี้คือ Gen X และลูกของคนรุ่นนี้ Gen Y และลูก หรือพี่น้องของคนรุ่นนี้คือ Gen Z หรือเรียกทั่วไปว่า เจนซี ทั้งหมดนี้ทั้งโลกต้องต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ WHO ให้นามว่า โควิด-19 และขณะเขียนบทความนี้ WHO ได้ประกาศว่าทั้งโลกติดโรคโควิด-19 ในปลายสัปดาห์ของเดือนธันวาคม 2563 ว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 4.6 ล้านคน และยอดผู้เสียชีวิต 7.9 แสนคน สหรัฐเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1.6 ล้านคน และในกลุ่มประเทศติดเชื้อมาก ถึงขั้นวิกฤตอีกประเทศหนึ่งคืออังกฤษ และปรากฏว่า โควิดได้กลายพันธุ์ใหม่อีกครั้งแล้ว เบื้องต้นได้ชื่อว่า โควิด เวอร์ชั่น 2.0 ชื่อรหัสว่า “B117” สามารถติดเชื้อได้ง่ายกว่าโควิด-19 กลายพันธุ์เดิมถึง 50-70% และมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลของกรุงลอนดอน ได้แต่แถลงว่า เชื้อนี้ติดเชื้อได้ง่ายทั้งเด็ก (น่าจะ Gen Z) วัยรุ่น (Gen Y) และผู้ใหญ่ (Gen X, Gen. Boomer) และปรากฏว่าในเดือนธันวาคม 2563 สหพันธ์ยุโรป (ซึ่งมี 30 ประเทศ) ได้ประกาศไม่ให้เครื่องบินโดยสารของอังกฤษทุกสายการบินเข้าไปลงจอดในประเทศของยุโรป แต่ภายหลังจากนั้น 2-3 วัน สหพันธ์ยุโรปก็อนุญาตให้เครื่องบินของอังกฤษลงจอดในยุโรปได้ จึงสันนิษฐานได้ 2 ทางเชื้อโควิด-19 เวอร์ชั่นใหม่นี้เชื้ออ่อนมนุษย์ต้านทานได้ เพียงแต่ใส่แมสก์ปิดจมูก และป้องกันแบบเดิม หรือไม่มีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวแล้ว

Advertisement

เรามาดูกันมารู้จักไวรัสโควิด-19 เมื่อเปรียบเทียบกับไวรัสอื่นๆ ต่อความสามารถในการคร่าชีวิตมนุษย์บนโลกใบนี้ และปรากฏการณ์การต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตคนไทยและสรุปบทเรียนของโรคระบาดโควิด-19 ทั้งพันธุ์เก่าที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ และในอังกฤษสายพันธุ์ใหม่ เพื่อเศรษฐกิจของไทยและไม่อาจให้โรคนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่นของไทย ดังนี้

ประการที่ 1 ศตวรรษที่เราเกิดและยังมีชีวิตในปัจจุบันคือ ผู้ที่เกิดในศตวรรษ 20 และผู้เกิดในศตวรรษ 21 เริ่มแต่ปี ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) บันทึกโลก (Timelines of World History) ว่าในปี ค.ศ.1920 เกิดโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ชื่อ “สเปนนิส ฟลู” ระบาดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1939-1945) ประมาณ 10 ปี โรคนี้ระบาดอยู่นานและระบาดหนักประมาณ 1 ปี 6 เดือน มนุษย์สูญเสียชีวิตเท่าที่ปรากฏทั่วโลก 30 ล้านคน ไม่รวมผู้คนในป่าเขา หรือพื้นที่เข้าไม่ถึง และไม่มีเครื่องมือเทคโนโลยีเข้าสำรวจถึงในสมัยนั้น โรคระบาดไข้หวัดใหญ่ชนิดดังกล่าวเป็นละอองล่องลอยไปกับอากาศ มนุษย์จึงติดเชื้อได้ง่าย ผิดกับโควิด-19 ทั้งชนิดเก่าที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ที่เรียกชื่อเป็นทางการว่าสายพันธุ์ HcoV-229E และได้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Sar-CoV-2 ซึ่ง WHO ตั้งชื่อ โควิด-19 ซึ่งทั้งจีนและสหรัฐต่างปฏิเสธเป็นพัลวันไม่ได้กลายพันธุ์จากประเทศของตนนั่นเอง แต่โรคนี้ก็เกิดขึ้นแล้วโดยระบาดด้วยสารคัดหลั่งจากมนุษย์ด้วย ไอ จาม ใกล้ชิดกัน สัมผัสกัน หรือกระทำการใดๆ โดยเชื้อเข้าทางจมูกทางปาก แล้วไวรัสจะเข้าทางหลอดลมสู่ปอดมนุษย์ และทำลายปอดถึงขั้นเสียชิวิด ดังนั้นโควิด-19 ติดเชื้อยากกว่าโรคไข้หวัดสเปน ซึ่งติดง่ายด้วยลมหายใจ ที่ล่องลอยจากอากาศแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินลมหายใจของมนุษย์ ซึ่งระบาดอยู่ 1 ปี 6 เดือน จึงขอตัดสินว่า โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ของจีน/สหรัฐ หรือที่กลายพันธุ์ใหม่สุดๆ คือไวรัสโควิด-19 เวอร์ชั่น 2.0 จากอังกฤษ การระบาดทั่วโลกจะสิ้นสุดลงใน 1 ปี นับแต่เริ่มต้นกันยายน พ.ศ.2020-กันยายน 2021 (ก็บอกแล้วว่า ไม่ใช่มด หมอ) ซึ่งผมบอกกับคนใกล้ชิดว่าขอพยากรณ์โดยเอาโรคร้อยปีก่อนเป็นตัวตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 จะผิดหรือถูก ถ้ามนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เราจะรอดชีวิดจากโรคระบาดนี้แน่นอน

ประการที่ 2 การต่อสู้ของมนุษย์กับโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (เหมารวมทั้งจีน/สหรัฐ และอังกฤษ) ได้ดังนี้ ดังได้กล่าวแล้วว่าร่างกายของมนุษย์ถูกบุกรุกทำลายด้วยไวรัส ซึ่งได้ชื่อว่าโรคระบาดทุกร้อยปี และโรคระบาดไวรัสก็เสื่อมหายไปตั้งแต่ก่อนมนุษย์รุ่น Boomer คือ รุ่น Great ผมขอเรียกว่า “รุ่นมหาบุรุษ” และก่อนรุ่นนี้ เป็นรุ่น Lost ซึ่งผมขอเรียกว่า “รุ่นสาบสูญไปแล้ว” ได้ต่อสู้กับไวรัสทุกศตวรรษ และผ่านมาได้ และในยุคที่เจริญทางวิทยาศาสตร์ได้รู้ว่ามนุษย์มีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยไข้เจ็บในตัวเอง และทั้งต่อสูกับไวรัสด้วย ดังปรากฏในต้นศตวรรษที่ 21 (ค.ศ.2020) ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าโจมตีภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ซึ่งประดุจทหารเฝ้าบ้านที่ปิดประตูร่างกายของมนุษย์ที่เรียกว่า “สไปค์โปรตีน” ไม่ยอมให้เข้าไปแทรกซึมทำลายเครื่องมือหายใจ โดยภูมิคุ้มกันบล็อกไว้ ไม่ให้ขยายตัว แต่หากภูมิคุ้มกันของมนุษย์อ่อนแอ จะด้วยไม่ป้องกันตนเองแบบที่คุณหมอแนะนำระวังตนเองแบบต่างๆ รวมเรียกว่า “การ์ดไม่ตก” (ภาษามวย: ยกหมัดป้องกันตนเอง) จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะโรคระบาดนั้นพยายามเข้าทำลายทุกวันทุกนาที หากเราไม่ป้องกันหรือ “การ์ดตก” ภูมิคุ้มกันก็ต้องต่อสู้โควิดหนัก ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงแน่นอน และแทรกซึมกระจายตามร่างกายเราได้ สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์เดิม และสายพันธุ์ใหม่ไม่อาจทราบว่าจะป้องกันเฉพาะพันธุ์หรือเข็มเดียวได้ทั้ง 2 พันธุ์ วัคซีนนี้เมื่อฉีดเข้าไปจะเข้าไปสอนภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้ไวรัสหรือเสริมให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญวัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ถึงบัดนี้ยังไม่ทราบว่าจะได้ฉีดกับคนไทยเมื่อไหร่ ก็ต้องรอคอยกัน

ประการที่ 3 เหตุการณ์การปะทุของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย (ไม่เกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์ในอังกฤษ) แต่ป็นเหตุการณ์ในกลางเดือนธันวาคม 2563 เกิดจากตลาดใหญ่ มหาชัย ตรวจพบคนติดเชื้อและแพร่พันธุ์ได้คนที่ 1 ในตลาดกลางกุ้ง ตลาดใหญ่ของอาหารทะเล และแม่นํ้าของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของประเทศไทย และไวรัสแพร่พันธุ์รวดเร็วไปทั่วประเทศ โดยกล่าวกันว่าคนต่างด้าว (ส่วนใหญ่เป็นพม่า) ที่มีอาชีพใช้แรงงานจำนวนมากอยู่ในสภาพที่พักแออัด จำนวนหนึ่งตกงาน เพราะช่วงระบาดโควิด ตั้งแต่กุมภาพันธุ์ 2563 และทยอยตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อธิบดีกรมควบคุมโรคเมื่อ 27 ธันวาคม 2563 ได้ให้ข้อมูลแรงงานต่างด้าวในจังหวัดสมุทรสาคร ผ่านสื่อว่าผลการตรวจคัดกรอง 10,411 ราย พบผู้ติดเชื้อ1,337 ราย และที่หลีกเลี่ยงการตรวจจะมากน้อยเท่าใด ทำให้คนจำนวนมากส่วนนี้เป็นตัวแปรตามที่สอบถามได้และเปรียบเทียบรายรับกับเส้นแบ่งแห่งความยากจน ยิ่งจะถูกพิจารณาในขั้นจะ Lock down ทำให้ตลาดกุ้ง-ปลา ฯลฯ ซบเซาลง แต่ไวรัสขยายตัวแพร่หลายมากขึ้น เพราะมีพาหะ ผู้เข้ามาซื้อ หรือมีธุรกรรมจำนวนมากจากจังหวัดต่างๆ กับตลาดสดใหญ่ที่สุดแห่งนี้แล้วกลับไปภูมิลำเนาในจังหวัดของตน ทำให้เป็นงานสำคัญของศูนย์บริหารโควิด (ศบค.) ต้องติดตามบุคคลที่เป็นพาหะไปสัมผัสกับผู้ใดมากน้อยแค่ไหนก็ต้องนำตัวเพื่อตรวจการติดเชื้อในสถานควบคุมการตรวจและรักษาผู้ติดเชื้อโควิดของราชการ (State Quarantines) โดยกรมป้องกันโรคแจ้งว่าได้แจ้งผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แรงงานต่างด้าวจำนวนหมื่นคนเศษในตลาดใหญ่นี้ พบการติดเชื้อโควิด-19 พันคนเศษ แต่แรงงานต่างด้าวมีมากกว่านั้น ทำให้ ศบค.กำหนดพื้นที่ระบาด โดยมติ ศบค.ชุดใหญ่เมื่อ 24 ธันวาคม 2563 ให้พื้นที่ควบคุมสูงสุด คือจังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่ควบคุมคือกรุงเทพฯ และอีก 3 จังหวัด กับพื้นที่ของจังหวัดที่เหลือที่ต้องเฝ้าระวังสูง และจังหวัดเฝ้าระวังที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเป็นรอบที่สอง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเปรียบเทียบกับแหล่งกำเนิดของไวรัสเชื้อโรคในยุคต่างๆ แห่งศตวรรษที่ยังคงอยู่ในแอฟริกาใต้ และกลายเป็นโรคประจำถิ่น (Local diseases) คือ โรคโคโรนา HcoV-229E 8 เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม คือ โรคซาร์ส เป็นโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน (สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดปัจจุบันคือ SARS – CoV-2 หรือ โควิด-19) นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งสารพัดไวรัสคือ โรคไข้หวัดใหญ่ H3N2 โรคไข้หวัดตามฤดูกาล ไข้หวัดหมู H1N1 ไข้หวัดนก ไวรัสไข้เลือดออกอีโบลา ไวรัสเอชไอวี หรือโรคเอดส์ ทั้งหมดนี้ทำให้มนุษย์เสียชีวิตมามากมาย และรวมอยู่ในชุมชนแอฟริกาใต้ที่อยู่ภายใต้เส้นแบ่งแห่งความยากจนมาก พร้อมจะระบาดหรือกลายพันธุ์ ดังนั้นหากไม่แก้ปัญหาตลาดกลางกุ้ง ตลาดมหาชัยของจังหวัดสมุทรสาครให้ปราศจากจากการกระจายเชื้อโรคโควิด-19 โดยด่วน ก็อาจจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น และจะเป็นที่รวมของโรคไวรัสต่างๆ ได้

ว่าที่ร้อยตรี ดร.กอบกิตติ์ (กอบกิจ) สุวรรณโชติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image