แกนนำ 6 พรรคฝ่ายค้านร่วมแถลงผลการหารือเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคลภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ กำหนดยื่นญัตติวันที่ 25 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา คาดว่าประธานสภาจะใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 7 วัน จากนั้นส่งให้รัฐบาลเพื่อตอบกลับมา เวลาในการอภิปรายกี่วันนั้นอยู่ที่เนื้อหา และข้อมูลในการอภิปราย โดยการอภิปรายจะต้องจบเนื้อความ ผู้เสนอญัตติสามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่
ประเด็นในการอภิปรายและตัวบุคคลยังไม่มีการเปิดเผย แกนนำฝ่ายค้านระบุว่า จะแถลงในวันยื่นญัตติ 25 มกราคมไปพร้อมกัน ส่วนกำหนดวันอภิปราย ฝ่ายค้านบางส่วนเห็นว่า เมื่อยื่นญัตติในวันที่ 25 มกราคม ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะบรรจุญัตติเกินสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ หรือยืดเวลาออกไป แกนนำบางคนยังเสนอแนะว่า น่าจะเริ่มอภิปรายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ได้ เพราะจะมีเวลาอย่างน้อย 3 วันในการอภิปราย แต่ถ้าจะอภิปรายยาวไปถึงวันเสาร์ก็เป็นเรื่องที่กระทำได้ โดยไปลงมติในวันรุ่งขึ้นอีกวัน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวิธีการตรวจสอบรัฐบาล โดย ส.ส.จะยื่นญัตติแล้วอภิปรายตามหัวข้อที่กำหนดไว้ จากนั้นจะมีการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่จากการอภิปรายที่ผ่านมา พรรครัฐบาลซึ่งมีเสียงข้างมากในสภา จะลงมติสนับสนุนนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ซึ่งมีผลให้นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื้อหาจากการอภิปรายจะแพร่กระจายสู่ประชาชนและสังคม หากมีกระแสสังคมเห็นด้วยกับฝ่ายค้าน อาจจะมีการปรับปรุงคณะรัฐมนตรีหลังจากนั้น
ที่น่าห่วงก็คือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ บางครั้งกลายเป็นเกมการต่อรองระหว่างนักการเมืองที่ไม่ต้องการถูกอภิปราย ซึ่งอาจมีการตีแผ่ข้อมูลด้านลบในสภา ในการต่อรองมักมีเสียงเล่าลือถึงผลประโยชน์ตอบแทน และยังมีแทคติคต่างๆ ในระหว่างการอภิปราย เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกอภิปรายบางคน กรณีดังกล่าวเป็นภาพด้านลบอีกเรื่องของสภา ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขทำลายระบอบรัฐสภาได้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก พรรคฝ่ายค้านจะต้องหาทางแก้ไข ปิดจุดอ่อนนี้ให้ได้ เพื่อให้สภาเป็นสถาบันการเมืองที่มีความแข็งแกร่ง สมกับเป็น 1 ใน 3 สถาบันอำนาจอธิปไตย
