‘ศรีสุวรรณ’ จ่อร้องกกต.วินิจฉัยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็น อสม. ชี้อาจขัด กม.-ได้เปรียบคนอื่น

‘ศรีสุวรรณ’ จ่อยื่นร้องกกต.วินิจฉัยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็น อสม.เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ชี้อาจขัดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ทำได้เปรียบผู้สมัครอื่น

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 มีนาคม จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน หรือ อสม. สามารถสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นได้หรือไม่ หลังพบมีข้อสงสัยกันมากเนื่องจากมี อสม. ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นกันเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ หรือบางรายอาจเป็นผู้ช่วยหาเสียง หรือทีมงานหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งก็มี

จึงมีข้อถกเถียงกันว่า อสม.เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ที่รับค่าป่วยการเป็นเงินเดือนประจำ ซึ่งอาจต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ในข้อ 12 ที่ว่า ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และข้อ 14 ที่ว่าไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ ส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีคำวินิจฉัยอันเป็นที่สุดว่าเป็นเช่นไร

นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า อสม.มีระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2554 รองรับ และมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สิทธิได้รับเงินค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2560 และ (ฉบับที่ 2) 2562 จากเงินงบประมาณแผ่นดิน โดยกำหนดให้เบิกจ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน ในอัตรา 1,000 บาทต่อคน

นอกจากนั้นยังมีสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษ จากโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการดําเนินการตามบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบได้ มีสิทธิจะได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามหลักเกณฑ์ได้ และอื่นๆ อีกมากมาย เฉกเช่นเดียวกันกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วไป

Advertisement

“หากให้ อสม.สามารถมีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ก็ย่อมจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้ เนื่องจาก อสม.ใช้เงินแผ่นดินในการทำงานสร้างปฏิสัมพันธ์หรือหาเสียงกับชุมชนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาโดยตลอด ย่อมทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันในการเลือกตั้งในแต่ละท้องถิ่นได้” นายศรีสุวรรณกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image