“โรม” จี้ ตำรวจต้องไม่นิ่งเฉยต่อการแอบอ้างสถาบันมาคุกคามคนอื่น
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความแสดงความเห็น กรณี กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า”นักรบองค์ดำ” เดินทางไปกดดัน พร้อมนำตัวประชาชนมาขอขมา อ้างว่าไม่มีความจงรักภักดี เพื่อกลับตัวกลับใจ นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตำรวจต้องไม่นิ่งเฉยต่อการแอบอ้างสถาบันฯ มาคุกคามผู้อื่น
ผมทราบข่าวเรื่องการจัดตั้งกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า “นักรบองค์ดำ” อ้างตัวเป็นผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน ออกตระเวนหาตัวผู้เห็นต่างทางการเมือง แล้ว “กดดัน” ให้เขาต้องขอขมาจากการแสดงออกทางการเมืองของตัวเอง
ผมเห็นว่านี่ไม่ใช่สภาพที่บ้านเมืองซึ่ง “มีขื่อมีแป” ควรจะเป็น และไม่ใช่สิ่งที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างตำรวจจะนิ่งเฉย ปล่อยให้เกิดขึ้นได้
หากเราปล่อยให้มี “ตำรวจเอกชน” เที่ยวหมายหัวคนตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรในมือ บีบให้คนเหล่านั้นต้องคิดต้องเชื่อเหมือนกับตัวเอง โดยที่ก็ไม่รู้ว่าในเบื้องหลังมีการคุกคามต่อชีวิต, ร่างกาย และความเป็นอยู่ของผู้อื่นหรือไม่ หากเราปล่อยให้มีกลุ่มคนที่เพียงอิงแอบตัวเองกับสถาบันแล้วสามารถทำเรื่องแบบนี้กันทั่วไปในสังคมได้ แล้วจะให้ประชาชนเคารพกฎหมายได้อย่างไร? จะให้ประชาชนเห็นสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจได้อย่างไร?
อย่าให้ประชาชนมองว่าตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เก่งแต่กับม็อบฝ่ายประชาธิปไตย พอเจอใครอ้างตัวว่าทำเพื่อสถาบันฯ กฎหมายและอำนาจในมือท่านก็เป็นแค่เศษกระดาษเลยครับ เพราะการที่ท่านจะปล่อยปละละเลยแบบนี้ ประชาชนเขาจะมองว่าท่านปกป้องความปลอดภัยให้เขาไม่ได้ สุดท้ายถ้าประชาชนต้องปกป้องตัวเอง มันไม่โกลาหลกันไปหมดหรือ?
ผมพยายามพูดมาตลอดว่าการแอบอ้างสถาบันนั้นส่งผลเสียอย่างไร อย่างกรณีของตำรวจผมก็ได้อภิปรายให้เห็นไปแล้วกับเรื่อง ตั๋วช้าง และถ้าถามใจของท่านเอง ท่านก็ย่อมทราบดีว่านี่มันไม่ใช่เรื่องถูกต้องเลย อย่าให้วงการตำรวจและกระบวนการยุติธรรมมันเสื่อมไปมากกว่านี้เพียงเพราะการเมินเฉยของพวกท่านในการปล่อยให้กลุ่มอันธพาลแอบอ้างสถาบันฯ ลอยชายทำอะไรก็ได้แบบนี้เลยครับ
