“อนุทิน” ย้ำ สถานการณ์โควิด-19ตอนนี้ยังควบคุมได้ แจงต้องแยกประเภทผู้ป่วย-เพิ่มความระมัดระวัง กรณีเสี่ยงติดเชื้อและอยู่บ้าน ป้อง บุคคลกรแพทย์-สธ. ลั่น จะให้ผมย้ายอธิบดีกรมการแพทย์หรือ
เมื่อเวลา 9.20 น. วันที่ 23 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตรวจพบมีคุณยายป่วยโควิด-19 แต่ไม่มีเตียงรองรับจนที่สุดต้องเสียชีวิตในบ้าน ว่า ได้ทราบแล้วและให้กรมการแพทย์ถามไปยัง กทม. ว่าจะต้องมีการปรับปรุงระบบอย่างไรในการแยกแยะคนไข้ที่มีความฉุกเฉินเพราะในหลักต้องแยกประเภทให้ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำงานเต็มที่
เมื่อถามย้ำว่ากรณีคนติดเชื้อและต้องพักรอที่บ้านจนทำให้ติดเชื้อทั้งบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ในเรื่องนี้คนที่เริ่มมีอาการต้องรู้ตัวเอง เช่น เมื่อไปเที่ยวผับเที่ยว บาร์มามีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้วถ้าอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าบ้านหลายคนโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุอยู่ ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วยการไม่ไปคลุกคลีหรือสัมผัส อย่างไรก็ตามในขณะนี้กำชับไปทั้งกรมการแพทย์และกรมควบคุมโรค ว่าขณะนี้หากต้องการให้ ศบค.หรือรัฐบาลสนับสนุนสิ่งใดตนก็พร้อมเสนอให้ และสิ่งใดที่อยู่ในอำนาจก็อนุมัติในทันทีเช่นมีการขอยามาก็ได้อนุมัติไป หรือเมื่อวานก็ได้คุยกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ว่าขณะนี้มีคนรออยู่บ้านเป็นจำนวนมาก จึงมีข้อสรุปว่า สปสช.จะดำเนินการเรื่องชุดตรวจตัวเองที่บ้าน เช่นเครื่องวัดไข้ เครื่องวัดค่าออกซิเจนและยังสั่งการให้แต่ละโรงพยาบาลค่อยเฝ้าสังเกตอาการคนไข้ที่ติดเชื้อและอยู่บ้านรอเตียง เบื้องต้นให้ได้รับอุปกรณ์เหล่านี้ไปก่อน
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังสามารถใช้คำว่าควบคุมสถานการณ์ ได้อยู่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ใช้อยู่เราก็ควบคุม ซึ่งคำว่าควบคุมได้คือไม่ให้แพร่ระบาดไปเกินระดับที่เขาตั้งเกณฑ์เอาไว้ ซึ่งในขนาดนี้ถือว่านิ่งมาอาทิตย์กว่าๆ ตัวเลขพันเจ็ดพันสี่ขึ้นมาสองพันอะไรแบบนี้ ซึ่งหากนำมาเฉลี่ยก็ยังอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งยังอยู่ในจุดที่คาดหวังไว้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลจากการใช้มาตรการเพราะหากไม่มีการควบคุมก็อาจทำให้มากกว่านี้ตอนนี้จึงหวังว่าจากนี้ไป 2 สัปดาห์ทุกอย่างจะค่อยๆลงมา
เมื่อถามว่าวันที่ 1 พฤษภาคมนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนฉีดวัคซีน สำหรับคนที่ป่วยและหายแล้วยังมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาฉีดวัคซีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องถามแพทย์ ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารการฉีดวัคซีน ที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัยในการฉีด ในประเด็นเรื่องป่วยและหายแล้วจะต้องมาฉีดวัคซีนหรือไม่ตนก็ยังไม่เคยถามแพทย์ “ตอนนี้ผมเห็นว่าความร่วมมือของประชาชนมีเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทุกคนก็เสียใจ และพยายามที่จะแก้ไข เช่นวันนี้ที่ กระทรวงสาธารณสุขศูนย์ปฏิบัติการก็แทบระเบิดเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้น แม้ทุกคนจะบอกว่าทำดีที่สุด แต่ผมก็ต้องบอกไปว่ายังไม่พอเพราะหากทำเต็มทีผลต้องออกมาดีกว่านี้ แต่ทั้งนี้จะไปกดดันเขาเพื่ออะไร จะให้ผมย้ายอธิบดีกรมการแพทย์หรือ มันไม่ได้ ซึ่งโดยส่วนตัวเชื้อว่า บุคลากรทางการแพทย์ตอนนี้ทุกคนทำงานเต็มที่ เช่นเมื่อวานได้กปหัวหิน ได้ เจอทั้งหมอและพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขหลาย 10 คน ไม่มีใครสักคนที่เดินมาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทุกคนยังสู้”
