ไบเดน จ่อเสนอขึ้นภาษีคนรวย ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น หวังเพิ่มสวัสดิการเด็ก-แรงงาน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกาเตรียมเสนอแผนขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูง รวมถึงการเพิ่มภาษีเงินได้จากการลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อนำเงินราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ไปสนับสนุนระบบดูแลเด็ก การศึกษาก่อนวัยอนุบาลและจ่ายเงินชดเชยแรงงานที่ตกงาน
แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันของรัฐบาลในการปรับเปลี่ยนระบบภาษีครั้งใหญ่เพื่อให้ผู้ที่ร่ำรวยและบริษัทใหญ่ ๆจ่ายภาษีมากขึ้นและช่วยจ่ายเงินค่าวาระทางเศรษฐกิจของไบเดน
ข้อเสนอดังกล่าวเรียกร้องให้เพิ่มอัตราภาษีเงินได้สูงสุดเป็น 39.6% จากเดิม 37% นอกจากนี้ยังจะเก็บภาษีภาษีเงินได้จากการลงทุน เพิ่มเกือบ 2 เท่าเป็น 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขึ้นภาษีภาษีรายได้จากการลงทุนในตลาดหุ้นครั้งใหญ่ที่สุด โดยผู้จ่ายภาษีผลได้จากทุนส่วนใหญ่คือชาวอเมริกันที่มั่งคั่ง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1920 มาแล้ว และในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อัตราภาษีดังกล่าวไม่เกิน 33.8%
ข่าวแผนการขึ้นภาษีซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ไบเดนหาเสียงไว้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทตกลงอย่างหนัก โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1% ในช่วงบ่าย นับเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน
อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวต้องนำขึ้นสู่สภาคองเกรสซึ่งพรรคเดโมแครตของนายไบเดนครองเสียงข้างมากอยู่เล็กน้อย และยากที่จะได้เสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาหรือไม่ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในสภาเซเนตที่ทั้งสองพรรคมีพรรคละ 50 เก้าอี้เท่ากัน
