อุบลเดือด! ทนายเผาหนังสือ กม. นักเขียนดังโกนหัวประท้วง ลั่น มีหัวใจ ทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม สืบเนื่องกรณีเกิดกระแสการทำกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” เป็นวงกว้าง ทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาค ด้วยการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1.12 ชั่วโมง และ 112 นาที ตามจุดต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎร ที่ถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำกิจกรรม ยืน หยุด ขัง ในลักษณะดาวกระจายยังคงมีเพิ่มมากขึ้นในหลายจุด โดยส่วนมากเริ่มกิจกรรมในเวลา 17.00 และ 17.30 น. ภายใต้แนวคิด #ยืนหยุดขังดาวกระจายต้านภัยโควิด19 โดยที่ จังหวัดอุบลราชธานี มีการทำกิจกรรม ยืน หยุด ขัง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที หน้าป้ายมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ฝั่งประตู1 จัดโดย คณะอุบลปลดแอก (Ubon New Gen Democracy)
เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ทยอยมาร่วมกิจกรรม 12 ราย คนประกอบด้วย อาจารย์ นักศึกษาและประชาชน มีการสวมหน้ากากอนามัย และยืนเว้นระยะห่างตามนโยบายป้องกันโรคระบาดโควิด-19 มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีคอยสังเกตการณ์อยู่ด้านข้าง
สำหรับรูปแบบกิจกรรมเป็นการตั้งแถวบริเวณด้านหน้าป้ายมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทางเข้าฝั่งประตู 1 โดยผู้ร่วมกิจกรรมบางรายได้มีการพกหนังสือมายืนอ่าน มีการถือป้ายมีข้อความ คืนลูกให้แม่, ต้องการวัคซีนทางเลือก, คืนสิทธิประกันตัว, คืนความยุติธรรมให้ผู้บริสุทธิ์, ปล่อยประชาชนเดี๋ยวนี้, Free our friends, ปล่อยเพื่อนเรา, คืนสิทธิประกันตัวให้พวกเขา, ยกเลิก 112 เป็นต้น
โดยหนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมคือ นายวิทยากร โสวัตร เจ้าของรางวัลเรื่องสั้นยอดเยี่ยมนายอินทร์อะวอร์ด (2552) จากผลงานเรื่อง “ฆาตกร” ซึ่งโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ยืนเสร็จ #ผมจะโกนหัวประท้วงความอยุติธรรม”
เวลา 18.12 น. เป็นเวลาสิ้นสุดกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีการชูสามนิ้ว พร้อมกับตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” 3 ครั้ง
เวลา 18.23 น. ว่าที่ร้อยตรี ฉัตรชัย หรือทนายแชมป์ แก้วคำปอด หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรม เผาหนังสือประมวลกฎหมาย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
“ผมไม่รู้สึกเสียดายเลย หนังสือจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีคนปฏิบัติตามนั้น” ทนายเเชมป์กล่าว
ในช่วงเวลาเดียวกัน นายสรพจน์ เสวนคุณากร อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ ม.อุบลฯ โกนศีรษะให้นายวิทยากร
นายวิทยากรกล่าวว่า ตนไม่เสียดายเลยและตัดสินใจแบบนี้มาตั้งแต่วันเเรกที่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ หรือเพนกวินโกนผมเเล้ว
“แรงจูงใจที่โกนผมในวันนี้มี 3 ประเด็น หนึ่ง ผมเป็นพ่อคน ผมรักลูกผม และเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ สอง ผมบอกตัวเองว่าผมเป็นนักเขียน คุณจะบอกตัวเองอย่างไรในขณะที่เห็นคนถูกกระทำ เห็นความอยุติธรรมต่อหน้า และงานเขียนของคุณก็ไม่ได้ประโลมโลกหรืออนุรักษนิยม
“และสิ่งที่ผมจะเคารพตัวเองในฐานะนี้ได้มากที่สุดคือต้องกล้าออกมาในช่วงที่ตัวเองยังไม่ได้รางวัลใดใด ผมไม่อยากเป็นนักเขียนประเภทที่รอให้ได้รางวัลก่อนค่อยออกมา หรือระหว่างเป็นแคนดิเดตต้องรักษาท่าที แต่ถ้ามันจะเป็นการตัดโอกาสรางวัลเลย ผมก็ว่าดีมาก
“สาม ผมเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่มีหัวใจ มีความรู้สึก เหมือนอย่างคุณ” นายวิทยากรกล่าว ก่อนปิดท้ายว่า เราต้องสนับสนุนการเรียกร้องของขบวนการประชาธิปไตยอย่างเต็มที่เพื่อไปสู่กติกาที่ดีร่วมกัน
