ศบค.ชี้ผู้เสียชีวิตโควิดเด็กสุด 2 เดือน – คลัสเตอร์ใหม่ตลาดยิ่งเจริญ – กทม.เฝ้าระวัง 22 คลัสเตอร์

ศบค. เผยผู้เสียชีวิตจากโควิด อายุต่ำสุด 2 เดือน พบคลัสเตอร์ใหม่ตลาดยิ่งเจริญ บางเขน กทม. มี 22 คลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวัง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,473 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 1,793 ราย ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 680 ราย ต่างประเทศ 23 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 84,692 ราย ยอดผู้เสียชีวิต 35 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 555 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 42,492 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 21,199 ราย ในโรงพยาบาลสนาม 21,789 ราย ที่น่าเป็นห่วง คือ มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,150 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 384 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ข้อมูลผู้เสียชีวิต 35 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 16 ราย เชียงราย สงขลา สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย อุบลราชธานี สระแก้ว ศรีษะเกษ ระยอง ชลบุรี ชัยภูมิ ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร ลพบุรี สระบุรี และสุราษฏร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย

แบ่งเป็นเพศชาย 17 ราย เพศหญิง 18 ราย อายุตั้งแต่ 2 เดือน ถึง 93 ปี ค่ากลางอายุ 68 ปี เสียชีวิต สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงการรับเชื้อ มาจากสัมผัสสมาชิกในครอบครัว 20 ราย สัมผัสใกล้ชิดเพื่อน เพื่อนร่วมงาน 7 ราย อาชีพเสี่ยงเช่นทำงานในตลาดและขับแท็กซี่ 3 ราย อาศัยหรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาด 2 ราย ไปสถานที่แออัด 2 ราย ระบุไม่ได้ 1 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 17 ราย เบาหวาน 14 ราย ไขมันหลอดเลือดสูง 5 ราย ไตเรื้อรัง 5 ราย หลอเลือดสมอง 4 ราย โรคหัวใจ 3 ราย อ้วน 3 ราย และปฏิเสธโรคประจำตัว 6 ราย วันนอนที่อยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ทราบจนถึงวันที่เสียชีวิตสูงสุดถึง 38 วัน ค่ากลางอยู่ที่ 15 วัน

“สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศ 23 ราย มาจากอินเดียโดย 2 รายแรกเป็นคนไทยที่เดินทางเข้ามา มีการพบเชื้อแต่ไม่มีอาการตั้งแต่ day 7 และมี day 0 ด้วย 10 ราย โดยเดินทางเข้ามาทางอากาศและมี 1 รายที่เดินทางเข้ามาทางเรือที่เป็นแท่นขุดเจาะ บริเวณพื้นที่อ่าวไทยซึ่งเป็นวิศวกรสัญชาติโปรแลนด์ ซึ่งเราห้ามอากาศแต่ไม่ได้ห้ามทางเรือ และเขาป่วยด้วยการที่เป็นชาติที่เราต้องดูแลด้วยมนุษยธรรมจึงถูกนำเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนที่จังหวัดสงขลา เรารู้ว่าทุกช่องทางที่มาจากทางอินเดีย ซึ่งเรากริ่งเกรงกันเรื่องของสายพันธ์ที่ในขณะนี้มีการป่วยกันมากในประเทศอินเดีย โดยเราได้ดูแลทางการแพทย์อย่างเต็มที่ในโรงพยาบาล

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย มาเลเซีย 4 ราย กัมพูชา 5 ราย โดยผู้ป่วยที่มาจากประเทศมาเลเซียมาอย่างถูกต้องและผู้ป่วยที่มาจาประเทศกัมพูชา มีเพศหญิง 2 รายที่เป็นสัญชาติไทยมาอย่างผิดกฎหมาย โดยตัวเลขของผู้ลักลอบมาทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นเมียนมา กัมพูชาและลาวที่มาจากพรมแดนธรรมชาติ 107 ราย ทั้งนี้มีคำถามว่าเป็นการย่อหย่อนของฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ ขอเรียนว่าจากการพูดคุยในที่ประชุม มาตรการของผู้ที่ดูแลขอบชายแดน ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นการลาดตะเวน การใช้โดรน ยังมีการตรึงกัน แต่คนที่ลักลอบเข้ามาก็น่าตำหนิและได้บอกกันว่าขอให้ท่านช่วยเข้ามาเถอะถ้าเป็นคนไทย เราทุกคคนก็ต้อนรับการกลับเข้าประเทศอยู่แล้ว อย่าใช้วิธีการเข้ามาทางธรรมชาติเลย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า โดย 10 จังหวัดที่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสูงสุด แบ่งเป็นกทม. 873 ราย นนทบุรี 155 ราย สมุทรปราการ 121 ราย ปทุมธานี 117 ราย สมุทรสาคร 63 ราย เพชรบุรี 43 ราย ชลบุรี 33 ราย นครศรีธรรมราช 30 ราย สงขลา 29 ราย พระนครศรีอยุธยา 28 ราย

และในที่ประชุมอยากแยกให้เห็นว่า เมื่อมีตัวเลขของเรือนจำขึ้นมาแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่ป่วยอยู่ในสถานที่ที่จำกัดก็อาจทำให้ตื่นตระหนกกัน จึงได้แยกตัวเลขออกมาให้ชัดว่ารวมทั้งประเทศยกเว้นผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ยอดรวมคือ 84,294 ราย

Advertisement

จะเห็นว่าตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นมา ในเรือนจำมีรายงานผู้ติดเชื้อมาตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2,835 ราย วันที่ 14 พฤษภาคม 183 ราย วันที่ 15 พฤษภาคม 877 ราย วันที่ 16 พฤษภาคมตัวเลขเป็นศูนย์และมาบวกรวมกับวันที่ 17 พฤษภาคมเป็น 6,853 ราย และวันนี้ 680 ราย ยอดรวมผู้ต้องขังในเรือนจำ 11,428 ราย ซึ่งต้องแยกมาจากจังหวัดอื่นๆ โดยแบ่งเป็นกทม.และปริมณฑล 76% และจังหวัดอื่นๆ อีก 24%

นอกจากนี้ในกทม. นนทบุรี และสมุทรปราการที่จัดเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีแดง เนื่องจากมีผู้ป่วยมากกว่าผู้ป่วยที่รักษาหาย โดยในวันที่ 1-7 พฤษภาคม หากนำยอดผู้ป่วยและผู้ป่วยที่รักษาหายมาเทียบกันจะเห็นว่า นนทบุรีมีผู้ป่วยใหม่ 1,488 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 451 ราย คิดเป็น 3 เท่ากว่า กทม.ผู้ป่วยใหม่ 4,912 รายและผู้ป่วยรักษาหาย 4,755 ราย ซึ่งถือว่ามีอัตราส่วนเท่ากัน แต่ในช่วงวันที่ 8-14 พฤษภาคม กทม.มีผู้ป่วยเพิ่มเป็น 6,644 ราย รักษาหาย 5,322 ราย สำหรับต่างจังหวัดอีก 71 จังหวัด ในช่วงวันที่ 8-14 พฤษภาคม พบผู้ป่วยใหม่ 4,207 ราย และรักษาหาย 4,653 ราย ซึ่งทำให้เห็นว่าการใช้เตียงยังเกิดขึ้นเยอะในกทม.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้วันนี้พบว่ามี 23 จังหวัดที่ยอดผู้ป่วยเป็นศูนย์ ได้แก่ขอนแก่น อุบลราชธานี พิษณุโลก ลำพูน ลำปาง อ่างทอง นครพนม เพชรบูรณ์ ตราด น่าน กาฬสินธ์ุ ชุมพร พะเยา เลย แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย พังงา อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู บึงกาฬ และสตูล

ทั้งนี้จะเห็นว่าในกทม.กราฟผู้ป่วยติดเชื้อยังพุ่งเป็นแนวทแยงขึ้น และมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 28,658 ราย และได้มีการตรวจเชิงรุกในชุมชนอย่างเข้มข้น อัตราผู้ติดเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เข้าไป มีถึง 6.98% โดยพื้นที่ที่เจอผู้ติดเชื้อจำนวนมากอยยู่ที่แคมป์หลักสี่ คลองถมเซนเตอร์ ตลาดห้วยขวางยังเป็นกราฟทแยงขึ้นสูง แต่ตลาดดินแดงกับตลาดพลอยบางรักที่อัตราที่ผู้ติดเชื้อจะเริ่มนิ่ง โดยในวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อในแคมป์หลักสี่เพิ่มเป็น 1,107 คน เพิ่มเป็น 66.41% มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 586 คน

นอกจากนี้จำนวนเขตที่เป็นยังอยู่ที่ 19 เขต มีทั้งหมด 29 คลัสเตอร์ ใน 29 คลัสเตอร์มีแค่ 22 คลัสเตอร์ที่ active โดยคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดคือ เขตดินแดง 2 คลัสเตอร์คือตลาดห้วยขวางและแฟลตดินแดง เขตราชเทวี คือประตูน้ำ ชุมชนริมคลองสามเสน แฟลตรถไฟมักกะสัน เขตหลักสี่คือแคมป์ก่อสร้าง เขตดุสิต คือสี่แยกมหานาค สะพานขาว ตลาดผลไม้ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย คือคลองถมเซ็นเตอร์ เสือป่า วงเวียน 22 วรจักร โบ้เบ้ เขตคลองเตย คือที่พักคนงานก่อสร้างและชุมชนแออัดคลองเตย เขตบางรักคือสีลม เขตสาทรคือชาวกีนี เขตพระนคร คือปากคลองตลาด เขตบางกอกน้อย เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา เขตสวนหลวง เขตจตุจักร เขตราชเทวี เขตบางเขน ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ คือตลาดยิ่งเจริญ เขตทวีวัฒนา เขตปทุมวัน เขตสาทร เขตป้อมราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตจตุจักร เขตลาดพร้าว และเขตสวนหลวง

“และยังมีการพูดถึงผลงานของโรงพยาบาลบุษราคัม ที่เป็นทางออกที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยสีเหลือง ปรากฏว่าโรงพยาบาลบุษราคัมสร้างเสร็จแล้วและได้มีการใส่เครืองมือลงไป ที่เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมและเมื่อวานนี้ (17 พฤษภาคม) รับผู้ป่วยใหม่ 82 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียว 58 ราย ผู้ป่วยสีเหลือง 20 ราย และผู้ป่วยสีแดงที่ต้อง refer ออกไปอีก 4 ราย ในขณะนี้ยอดผู้ป่วยรวมทั้งหมดอยู่ที่ 267 ราย และได้มีการระดมแพทย์กับพยาบาลต่างจังหวัดเข้ามาด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image