พบตาย1เบลเยียมสั่งหยุดใช้วัคซีนจอห์นสัน!
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม กระทรวงสาธารณสุขเบลเยียมออกแถลงการณ์ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขของ 7 ภูมิภาคทั่วประเทศ สั่งระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือ แจนส์เซน โควิด-19 วัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ให้ผู้รับวัคซีนที่มีอายุต่ำกว่า 41 ปีลงมา หลังจากพบว่า มีผู้หญิง วัย 37 ปีรายหนึ่งซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาหลังได้รับวัคซีนเจแอนด์เจ เพราะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันร้ายแรง(ทรอมโบซิส) พร้อมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งถือเป็นการเสียชีวิตรายแรกในยุโรปจากอาการนี้ ทั้งนี้จนกว่า สำนักงานยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) สามารถประเมินผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงกับผลประโยชน์จากการใช้วัคซีนโดยละเอียดแล้วเสร็จ โดยจำกัดให้ฉีดได้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 41 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ทางด้าน อีเอ็มเอ แถลงในกรณีเดียวกันนี้ว่า กำลังทบทวนตรวจสอบรายละเอียดการเสียชีวิตของผู้รับวัคซีนรายนี้ และได้ร้องขอไปยังบริษัทเจแอนด์เจ ให้ศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนที่ฉีดกับภาวะทรอมโบซิสและเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากมากแต่อันตรายถึงแก่ชีวิต โดย อีเอ็มเอ ให้แต่ละประเทศตัดสินใจเองว่าจะระงับใช้วัคซีนนี้หรือไม่ โดยพิจารณาควบคู่กับความเร็วของการแพร่ระบาด และการเข้าถึงวัคซีนทางเลือกอื่นๆ ประกอบ
อีเอ็มเอ ระบุว่า ในอียู มีการฉีดวัคซีนเจแอนด์เจไปแล้วกว่า 1.34 ล้านโดส ส่วนในเบลเยียมเจแอนด์เจ ฉีดไปแล้วราว 40,000 คน โดย 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ที่มีอายุสูงกว่า 45 ปี
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาสั่งระงับใช้วัคซีนเจแอนด์เจ 10 วัน เพื่อสอบหาความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำ หลังพบเกิดขึ้นกับผู้รับวัคซีน 28 รายจากจำนวนที่ฉีดไป 8.7 ล้านราย ก่อนอนุญาตให้กลับมาฉีดได้ใหม่อีกครั้ง
