‘ลลิตา’ มาเอง! เปิดเบื้องลึก ‘ข่าวทับหลัง’ จากปี’59 ถึงวันกลับแผ่นดินไทย แนะอย่าเคลมได้คืนเพราะใครคนเดียว

‘ลลิตา’ มาเอง! เปิดเบื้องลึก ‘ข่าวทับหลัง’ จากปี’59 ถึงวันกลับแผ่นดินไทย แนะอย่าเคลมได้คืนเพราะใครคนเดียว

สืบเนื่องกรณีสื่อสำนักหนึ่งเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับนักข่าวหญิงสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการได้คืนทับหลังปราสาทหนองหงส์และปราสาทเขาโล้นจากสหรัฐ ซึ่งเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ผศ.ดร.ลลิตา หาญวงษ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เผยแพร่ข้อเขียนผ่านทางเฟซบุ๊ก ย้อนเล่าถึงที่มาของ ‘ข่าว’ การทวงคืนโบราณวัตถุไทยจากต่างแดน ซึ่งเริ่มต้นโดยกลุ่มสำนึก 300 องค์ เมื่อ พ.ศ.2559 นำไปสู่การยื่นหนังสือผลักดันให้กรมศิลปากรดำเนินการ โดยมีสื่อมวลชนสำนักต่างๆ ให้ความสนใจ

ทั้งนี้ ในตอนท้าย ผศ.ดร.ลลิตายังระบุว่า การกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยว่าตัวเองเป็นผู้ค้นพบทับหลังนี้ เป็นคนแรก ไทยได้ทับหลังกลับมาเพราะตัวเองเป็นเรื่องที่คณะทำงานทุกคนยอมรับไม่ได้

Advertisement

รายละเอียดดังนี้

มาค่ะ จะเล่าให้ฟัง สำนักข่าวแรกสุดที่ให้ความสนใจข่าวทวงคืนโบราณวัตถุ หลังจากพี่ปุ๊ พี่อีกคน เอก (ยอดชาย) และ อ.ดำรง (ลีนานุรักษ์) ตั้งกลุ่มสำนึก 300 องค์บนเฟซบุ๊ก คือ มติชน โดย คุณมดดำ พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร ที่เห็นความสำคัญของประเด็นนี้และช่วยเขียนข่าวให้อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ต้นปี 2559 เมื่อกลุ่มสำนึก 300 องค์เริ่มยื่นหนังสือให้กรมศิลป์ผลักดันการทวงคืน เริ่มจากเป้าหมายหลักของกลุ่มคือเทวรูปสำริดจากกรุเขาปลายบัด จังหวัดบุรีรัมย์

แต่บังเอิญว่าคุณเอก ยอดชาย ไปพบรูปทับหลังปราสาทหนองหงส์ในเว็บของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียชองมุนลี ที่ซานฟรานซิสโก และพี่ปุ๊จำได้แม่นว่าเคยเห็นทับหลังชิ้นนี้เป็นภาพถ่ายเก่าในรายงานการสำรวจโบราณสถานภาคอีสานของกรมศิลป์ เป็นจุดเริ่มต้นการค้นคว้าและพบว่ามีโบราณวัตถุจากไทยที่มีหลักฐานชัดเจนว่าถูกลักลอบนำออกจากไทยอีกหลายชิ้น เราได้ทับหลัง 2 หลังนี้กลับมาเพราะ Homeland Security ที่สหรัฐตรวจสอบแล้วว่ามีหลักฐานประเภทรูปถ่ายเก่าและเอกสารจากกรมศิลป์ของไทยมัดแน่นว่าเป็นของที่ถูกขโมยมาแน่นอน การต่อสู้ในศาลจึงเร็วสุด และเราได้กลับคืนมาก่อนโบราณวัตถุชิ้นอื่นๆ ที่กลุ่มสำนึก 300 องค์ยื่นเอกสารให้กรมศิลป์ทวง ซึ่งมี 30 กว่ารายการ

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อข่าวเริ่มแพร่ออกไป มีสำนักข่าวอื่นๆ ที่ให้ความสนใจ ติดตามการทวงคืนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Thai PBS ที่นำโดย 2 จิราพร คือ แป๋ว จิราพร คำภาพันธุ์ และ จิ จิราภรณ์ ศรีแจ่ม จากรายการเปิดปม เขาลงพื้นที่ที่เขาปลายบัด ไปพูดคุยกับชาวบ้านพร้อมพี่ปุ๊ ไปค้างกันหลายวันจนเราต้องถามว่าทำไมถึงทุ่มเทกันขนาดนี้

ส่วน ข่าวสามมิติ ของช่อง 3 ติดต่อมาเริ่มต้นด้วย คุณสถาพร ด่านขุนทด และ นริศรา คินิมาน ติดต่อมาวันแรก 20 พ.ค.2560 เป็นนักข่าวอาชญากรรม แต่บังเอิญตอนนั้นอยู่อเมริกา เลยได้รับมอบหมายจากรายการข่าวให้ไปดูทับหลังของจริงที่ซานฟรานซิสโก แต่เมื่อข่าวสามมิติทำข่าวก่อนทับหลังจะถึงไทยไม่นาน กลับไม่มีการพูดถึงคณะทวงคืนที่เป็นภาคประชาชนและกลุ่มสำนึก 300 องค์ จนมีอาจารย์ท่านหนึ่งโวยจึง edit และพูดถึงภาคประชาชนเล็กน้อยพอมีผักชีโรยหน้า เมื่อทับหลังมาแล้ว ทีมงานข่าวสามมิตินำโดยคุณมนตรีติดต่อพี่ปุ๊มา และขอสัมภาษณ์ทางวิดีโอคอล

จากที่เล่ามาอยากจะบอกว่ามีสื่อหลายช่องที่ให้ความสนใจเรื่องการทวงคืนโบราณวัตถุ เรารู้จักนักข่าวที่มาสัมภาษณ์พี่ปุ๊ทุกคน บางคนเรียกว่าสนิทกันไปแล้ว นักข่าวเหล่านี้เขาทำงานเป็นทีม และข้อมูลทั้งหลายแหล่ก็เป็นพี่ปุ๊ที่จัดหาให้เป็นหลักก่อนที่เขาจะลงไปทำข่าวทำสกู๊ปจริง ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวของตัวเองหรอกค่ะ ทุกอย่างเขาทำเป็นทีมทั้งนั้น และอยากจะย้ำกันอีกสักรอบว่าการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยว่าตนเป็นผู้ค้นพบทับหลังนี้ๆๆ เป็นคนแรก ไทยได้ทับหลังกลับมาเพราะตนเป็นเรื่องที่คณะทำงานทุกคนยอมรับไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image