“พิจารณ์” แง้ม 4 ขุนพล ก.ก.อภิปรายถกแก้รธน. ชี้ 3 ช่องทางทำประชามติ ย้ำผ่านเตรียมเสนอญัตติด่วน จี้ ครม.เร่งทำประชามติ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์รายชื่อผู้อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลอว่า มีด้วยกัน 4 คน 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค 2.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ 4.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา โดยจะอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล การอภิปรายญัตติที่พรรคอื่นๆ เสนอเข้ามาว่าเรามองว่าไม่เหมาะสมหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร และจะมีการอภิปรายเรื่องระบบการเลือกตั้งที่พรรคเสนอว่าเป็นทางออกของสังคมไทย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าระบบเลือกตั้งที่มีอยู่
นายพิจารณ์กล่าวว่า ในส่วนของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. … นั้น แม้ตอนนี้การพิจารณาของรัฐสภายังไม่เสร็จสิ้น แต่จากที่ได้พูดคุยกับเพื่อน ส.ส.ที่เป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา ว่าในทางปฏิบัติดำเนินการอย่างไร ซึ่งยังต้องตีความอีกในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลเห็น คือ ในสมัยประชุมที่แล้วทั้ง ส.ว. และส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐได้ให้เห็นเหตุผลที่โหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ และอ้างว่าต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน เราจึงเห็นว่าถ้าเมื่อใดที่ร่างพ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้ว ช่องทางในการจะทำประชามติได้มี 3 ช่องทาง ได้แก่ มติจากสภา การริเริ่มจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือการเข้าชื่อจากประชาชน ซึ่งช่องทางที่รวดเร็วที่สุด คือ ครม. แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะทำ คือ การเสนอเป็นญัตติด่วนเข้าสู่รัฐสภา เพื่อให้มีมติส่งเรื่องการทำประชามติเข้าครม. อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วการทำประชามติเป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะต้องใช้งบประมาณหลายพันล้าน ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมายที่รัฐบาลมีอยู่ว่าจะทำประชามติหรือไม่ทำ
นายพิจารณ์กล่าวว่า ในวันที่ 22 มิถุนายน หรือพรุ่งนี้ พรรคก้าวไกลจะมีการประชุมวาระพิเศษที่จะคุยกันถึงเรื่องของการลงมติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ร่าง และเรื่องสัดส่วนของคณะกรรมาธิการที่จะเข้าไปนั่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ
