ส.ส.หารือ หลังมีคำสั่งห้ามรวมตัว-บางจังหวัดกักตัว ส.ส. ‘ชวน’ ยัน สอบถามทาง ศบค.แล้ว สภาดำเนินการประชุมได้ พร้อมประสานให้ ส.ส.ไม่ต้องกักตัว ‘วิรัช’ ชี้ 6 ก.ค.เดินหน้าประชุม กมธ.งบประมาณเต็มสูบ แต่อาทิตน์นี้ขอดูสถานการณ์ก่อน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งมีสมาชิกมาลงชื่อรอบแรกไม่ถึง 100 คน จาก 483 คน นายชวนจึงได้เปิดให้สมาชิกหารือประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จนเวลา 10.45 น. องค์ประชุมจึงครบ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) จึงได้ลุกขึ้นหารือกับประธานสภา ว่า เนื่องจากมีหลายจังหวัดได้ออกประกาศให้ผู้เดินทางข้ามจังหวัดต้องกักตัว ส.ส. ตนอยากให้ประธานมีข้อหารือ หรือข้อชี้แจงให้ชัดเจน รวมถึงทำความตกลงกับ ศบค.ให้ชัดเจนในการยกเว้นข้อกำหนด เช่น เรื่องการห้ามประชุมเกิน 20 คน ตนขอให้ท่านประธานแจ้งไปยัง ศบค.ให้แจ้งผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดให้ทราบว่าท่านจะกักตัว ส.ส.มิได้ ตามข้อกำหนดข้อ 7 ที่ยกเว้นให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชน
นายชวนจึงแจ้งที่ประชุมว่า เงื่อนไขที่เราได้ขออนุมัติไปเพื่อให้การประชุมเป็นไปโดยชอบ จึงให้สภาทำเรื่องไปหารือกับทาง ศบค.อีกครั้ง คำตอบที่ออกมาคือได้อนุมัติไปแล้วตลอดสมัยประชุมนี้ จึงไม่จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุมัติใหม่ ให้สภาดำเนินการประชุมได้เลย และเพื่อความมั่นใจ ตนได้โทรศัพท์ส่วนตัวไปถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ดูแลเรื่องนี้ ท่านก็ยืนยัน
นายชวนกล่าวว่า ส่วนเรื่องกรณีแต่ละจังหวัดนั้นตนก็เป็นห่วง ซึ่งเมื่อสอบถามแล้วก็เห็นว่าไม่มีปัญา แต่เพื่อความมั่นใจ จะรวบรวมเรื่องทั้งหมดนี้ไปแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเพื่อให้ความสะดวกแก่พวกเราที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดให้ปลอดจากการกักตัว หรือสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่
นายชวนกล่าวอีกว่า ส่วนความคิดที่จะเลื่อนประชุมอะไรต่างๆ นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้มีการหารือกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย คือรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล หากมีมติอย่างไรตนยินดีที่จะปฏิบัติตาม แต่เมื่อยังไม่มีประเด็น และเรามีความเข้มงวดในการตรวจเข้ม แต่ทางเลขาธิการสภาไปจนถึงผู้รับผิดชอบทุกคน เราอยู่ และตรวจสอบทุกวันอย่างเข้มงวด ซึ่งยังเห็นปัญหาอยู่ เช่น ตนมาเช้า 07.00-08.00 น. ยังไม่มีคนตรวจเลย แต่มีเจ้าที่ตรงประตู ซึ่งข้อสังเกตที่ท่านช่วยเป็นหูเป็นตานั้น ตนจะให้ฝ่ายเลขาธิการเคร่งครัดอีกครั้ง แต่เราทุกคนก็ร่วมมือกัน เช่น สวมหน้ากาก 100%
นายชวนกล่าวว่า เราต้องช่วยผู้ที่เผชิญหน้ากับวิกฤตอยู่ขณะนี้ เช่น แพทย์ พยาบาล และบุคลากรที่ต้องรับภาระหนักด้วยการช่วยกันลดกันการติดเชื้อ ป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากาก เพราะเราคงไปห้ามประชาชนออกจากบ้านไม่ได้ คนต้องกินต้องใช้ แต่ถ้าอย่างน้อยสวมหน้ากากก็ยังเป็นการป้องกันตัว ทั้งนี้ เมื่อใดที่เห็นว่าสถานการณ์หนักรุนแรง ตนจะหารือกับทั้ง 3 ฝ่าย และถ้าหารือแล้วเห็นว่าควรพักประชุม เลื่อนประชุม หรืองดประชุม ตนก็ยินดีปฏิบัติตามต่อไป แต่ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ยังอยู่ในขั้นที่ควบคุมได้อยู่ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ที่สุด ในขณะที่คนอื่นเสี่ยงกว่าเรา
จากนั้น นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หารือต่อว่า ตนเป็นห่วงกรณีที่ กมธ.หลายคณะ โดยเฉพาะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 65 มีการหยุดประชุมไป 1 สัปดาห์ รวมถึง กมธ.อื่นๆ ที่เป็นการพิจารณากฎหมายก็งดประชุมไป ตนเป็นห่วงในเรื่องงบประมาณแผ่นดินที่เรามีเวลาพิจารณา 105 วัน เมื่อมีการงดประชุมไปแล้วจะทำให้การทำงานตอนท้ายต้องเร่งรีบ และพิจารณางบฯอย่างไม่รอบคอบ จึงอยากหารือว่าเราจะทำอย่างไรต่อสถานการณ์นี้
นายพิจารณ์กล่าวว่า ประเด็นต่อมาคือ พรรค ก.ก.ได้ยื่นญัตติขอให้มีการตั้ง กมธ.พิจารณาการประชุมออนไลน์ แต่ญัตตินี้เข้าแถมไว้อีกนานกว่าจะมาถึง จึงอยากหารือว่าพอที่จะหาช่องทาง หรือปรึกษากับ กมธ.กิจการสภามาทบทวนข้อบังคับการประชุมหรือไม่ อย่างน้อยๆ งานพิจารณากฎหมายจะสามารถประชุมกันผ่านระบบออนไลน์ได้หรือไม่ เพราะเราไม่ทราบว่าในอนาคตการแพร่ระบาดจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ ถ้าการจัดการวัคซีนยังไม่มีประสิทธิและกระจายตัวได้ไม่ดีพอ
นายชวนชี้แจงว่า เรื่องงบฯ ตนก็รู้สึกเช่นกันเพราะมีสมาชิกที่ปรารถนาดีรายงานว่าดูเหมือนจะช้าไป เมื่อเช้าตนจึงได้คุยกับรองประธาน กมธ.งบประมาณ ก็จะกลับไปทบทวน แต่การประชุม กมธ.แต่ละชุดอำนาจเป็นของ กมธ.ชุดนั้นๆ ว่าจะเลื่อนหรือประชุมต่อไป แต่ข้อกังวลนี้ใจตรงกัน แม้ประธานจะไม่มีสิทธิสั่งให้เขาทำอะไร แต่ก็พูดคุยติดตามว่าไปถึงไหนแล้ว ช้าไปเท่าไหร่ ซึ่งนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.งบฯ ท่านก็บอกว่าช้าไปกว่าที่กำหนดเอาไว้ แต่ก็พยายามกลับไปทบทวนเพื่อดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาทีหลัง ส่วนการประชุมด้วยวิธีอื่น ขณะนี้เกือบจะพูดได้ว่าตนใช้ระบบซูมเกือบทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องประชุมสภาที่ยังทำไม่ได้ด้วยกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ เรื่องนี้ก็ต้องกลับไปทบทวน
ด้าน นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะ กมธ.ยกร่างข้อบังคับชุดแรกและแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า สภาคงจะต้องมีการหารือ เพราะเราคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับการประชุมการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดย กมธ.สามารถทำได้ แต่ข้อจำกัดคือห้องที่สภาที่สามารถประชุมโดยระบบซูมได้ยังมีไม่พอ อาจจะต้องมีการปรับปรุงโดยการตั้งงบประมาณเป็นการเร่งด่วนอะไรก็แล้วแต่เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องกฎหมาย เช่น งบประมาณ ไม่สามารถประชุมด้วยระบบซูมได้ การหารือเรื่องนี้ตนเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องดำเนินต่อไป จะต้องแก้ข้อบังคังกันใหม่ก็ต้องทำ
ต่อมา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมงบประมาณ มีการเห็นข่าวตลอดเรื่องว่ามีพนักงานที่ทำหน้าที่เสิร์ฟน้ำรัฐมนตรีติดโควิด พนักร้านค้าด้านล่างสภาติดโควิด ผู้จดบันทึกการประชุมก็ติดโควิด เมื่อทำการสอบถามแล้วติดจริงๆ ตนไม่รู้ว่าทางสำนักเลขาธิการสภาได้รายงานสถานการณ์ให้ประธานสภาได้รับทราบถึงสถานการณ์หรือไม่ การประชุมเรื่องงบประมาณมีช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่เราก็ต้องคุมเวลาให้อยู่ใน 105 วัน ซึ่งเมื่อมาพิจารณาดูแล้วก็ใกล้เคียงแล้ว
นายวิรัชกล่าวว่า แม้ห้องประชุมจะกว้างขึ้นและมีมาตรการต่างๆ แต่ก็เราก็นั่งประชุมกันต่อเนื่อง ยาวนาน ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมเป็นต้นไป คงจะต้องประชุมกันต่อเนื่องแบบรวดเดียว อาจจะไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย แต่ขอทราบสถานภาพและสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ของสภาก่อน ถ้ากลับไปแล้วต้องกักตัว จะอยู่ กทม.ยาวก็คงไม่ได้
