ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
เผยแพร่ |
ด้านหนึ่ง คสช.และรัฐบาล “ดูเหมือน” จะประสบชัยชนะอย่างงดงามในสนามการเมือง
ไม่เช่นนั้นผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาคงไม่ “ขาดลอย” เช่นนี้
ไม่เช่นนั้นประดา “คุณห้อยคุณโหน” คงไม่กระโดดโลดเต้นขึ้นไปแสดงบทเด่นเวทีเช่นนี้
แต่ในสนามเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง ที่ประชาชนทั่วไปสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
สถานการณ์ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ
หากเศรษฐกิจเดินหน้า “ฉลุย” อย่างที่ผู้นำรัฐบาลและบรรดาโฆษกทั้งหลายตีฆ้องร้องป่าว
ลำพังการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) ของนายอุตตม สาวนายน
อันเป็นไปตามมารยาท เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อกระทรวงเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ย่อมไม่ส่งผลสะเทือนใดๆ ต่อตลาดและคนทั่วไป
มีแต่ในภาวะที่ “ความไม่แน่นอน” ยังแผ่ปกคลุมอย่างอึมครึม มีแต่ในภาวะ “ความไม่เชื่อมั่น” ยังเป็นบรรยากาศรอบตัวอยู่ดอก
“ข่าวลือ” จึงแพร่สะพัดกระจาย
คำถามพื้นฐานง่ายๆ เช่นเมื่อรัฐมนตรีลาออกโดยมารยาทแล้วจะกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกหรือไม่
ไม่ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แบ่งรับแบ่งสู้
ข่าวลือในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นไลน์ หรือเฟซบุ๊ก ก็กระจายกระหึ่ม
ตอกย้ำความไม่แน่นอนความไม่แน่ใจนี้ไปแล้ว
อย่าโทษวิทยาการสมัยใหม่ว่าทำให้ข่าวลือ-ข่าวไม่จริงแพร่กระจายเลย
หากไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน
ในเมื่อนายอุตตมเป็นรัฐมนตรีที่มีความใกล้ชิดสนิทสนม และเข้ามาดำรงตำแหน่งพร้อมกับการเข้าเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
แต่นายสมคิดกลับมิได้รับมอบหมายงานให้ดูแลกระทรวงไอซีที
ในขณะที่รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ประกาศยุทธศาสตร์และแนวทาง “ไทยแลนด์ 4.0” อันมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับกระทรวงไอซีทีอย่างแนบแน่น
แต่รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานของกระทรวงไอซีทีกลับเป็น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง
จะมิให้เกิดคำถาม จะมิให้เกิดความสงสัยได้อย่างไร
เช่นเดียวกันกับในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ มิได้กำกับดูแลงานของกระทรวงเกษตรฯ มิได้กำกับดูแลงานของกระทรวงคมนาคม มิได้กำกับดูแลงานของกระทรวงพลังงาน
จะมิให้เกิดคำถาม จะมิให้เกิดความสงสัยได้อย่างไร
หากเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจ “โชติช่วงชัชวาล”
หากปากท้องของประชาชนอิ่มหนำสำราญเป็นปกติ
ต่อให้สิบความขัดแย้ง ร้อยความไม่ลงรอยของรัฐมนตรี
ก็ไม่มีผลอะไรต่อสังคม
หรือถึงจะมีก็อาจจะไม่เป็นที่น่าสนใจ
ฉะนั้น ในทางกลับกัน หากความอึมครึมความขัดแย้งถูกสังคมเพ่งพินิจอย่างเอาใจใส่
ย่อมสะท้อนบรรยากาศ ย่อมสะท้อนความเป็นจริงในทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง
ตัวเลขการส่งออกใน 7 เดือนแรกของปีที่ยังอยู่ในพื้นที่ “ติดลบ” ก็ดี
การชะลอตัวของการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมก็ดี
ราคาที่ตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงของข้าว อันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญก็ดี
ไม่ใช่สิ่งอันน่าพึงใจอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะสำหรับรัฐบาลหรือประชาชน
ต่อให้ไม่มีความขัดแย้งความอึมครึมปรากฏอยู่
ความตกต่ำของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยก็เป็นเรื่องยากจะรับมืออยู่แล้ว
เมื่อปัญหาอันเป็นปัจจัยภายนอก
ยังมาประกอบเข้ากับความไม่เป็นเอกภาพอันเป็นปัญหาภายใน
จะไปโกรธไปโทษผู้คอยเฝ้าพินิจหรือโลกโซเชียลในฐานะผู้กระจายข่าวได้อย่างไร
ไม่ต้องการให้มีควัน ก็ต้องเริ่มด้วยการดับไฟ
ไม่ต้องการให้ทุกปัญหาทะลักทลายเข้ามาถึงผู้รับผิดชอบสูงสุด ก็ต้องมีกลไกหรือบุคคลรับผิดชอบกลั่นกรอง
การรวมศูนย์อาจจะมีประสิทธิผลยิ่งสำหรับการทำสงคราม
แต่ไม่แน่ว่าจะได้ผลสำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ