นทท.เผยนาทีเรือล่ม เจ้าท่าอยุธยาปิดน่านน้ำ ห้ามเรือบรรทุกสินค้าผ่านแล้ว เร่งกู้ลำที่จมโดยเร็ว

นทท.เผยนาทีเรือล่มกลางสามแยกแม่น้ำวัดพนัญเชิง เจ้าท่าอยุธยาปิดน่านน้ำ ห้ามเรือบรรทุกสินค้าผ่านแล้ว เร่งกู้ลำที่จมโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ร.ต.ท.ธนวัฒน์ สกุลวงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือยนต์ลากจูงเรือบรรทุกสินค้าล่มกลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา คนขับเรือพร้อมกับภรรยา รวม 2 ราย จมน้ำสูญหายไปกับเรือ ประสานเจ้าหน้าสมาคมอยุธยารวมใจ กรมเจ้าท่าไปให้การช่วยเหลือ

พบชาวบ้านจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์ โดยเรือยนต์ลากจูงที่ลากจูงเรือบรรทุกสินค้ามาด้วยกันลอยเรืออยู่กลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก ท่ามกลางกระแสน้ำไหลแรงเชี่ยว เป็นวังน้ำวน นอกจากนี้ ยังพบคราบน้ำมันและข้าวของจากเรือยนต์ลากจูงที่จมลอยอยู่กลางแม่น้ำ

จากการสอบสวนนายนพดล แซ่ดัน ผู้จัดการฝ่ายจัดการเดินเรือของบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอตร์ จำกัด กล่าว่าเรือยนต์ที่ลากจูงจมสูญหายไปภายในแม่น้ำอยู่ระหว่างลากจูงเรือบรรทุกสินค้า จำนวน 5 ลำ บรรทุกแร่มาจาก เกาะสีชัง เพื่อไปส่งที่ท่าเทียบเรือใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยากับป่าสักเป็นจุดที่อันตราย ตนเองต้องมาดูการลากจูง

นายนพดลกล่าวว่า เมื่อมาถึงทราบว่าเรือยนต์ที่ลากจูงเกิดจมสูญหายไปแล้ว ทั้งนี้ เรือยนต์ที่ลากจูงเป็นเรือเหล็ก ขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร มีนายสมชาย ธารกูล อายุ 60 ปี เป็นคนขับเรือ และนางนฤมล ธารกูล ภรรยา โดยสารมาด้วย จมน้ำสูญหายไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงขณะเกิดเหตุมีประชาชนบันทึกภาพวดีโอขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ พบว่าเรือนยนต์ลากจูงลำเกิดเหตุทำหน้าที่ดึงท้ายเรือบรรทุกสินค้าเพื่อบังคับเรือไม่ให้พัดไปตามกระแสน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ทำให้เรือเสียหลักพลิกตะแคงคว่ำลงกลางแม่น้ำ โดยเห็นภาพนางนฤมล ภรรยาคนขับเรือยืนอยู่ท้ายเรือ ก่อนกระเด็นออกมาแล้วสูญหายไป

น.ส.ยุพิน ใสสุศล อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า มาท่องเที่ยวที่วัดพนัญเชิงวรวิหารและเดินมาดูที่ท่าน้ำ พบเห็นเรือยนต์ลากจูง จำนวน 3-4 ลำกำลังลากเรือบรรทุกสินค้าฝ่ากระแสน้ำที่ไหลแรง จังหวะนั้นเห็นเรือลำที่จมเสียหลักเอียงแล้วค่อยๆ จมลงกลางแม่น้ำ โดยที่ไม่เห็นมีใครออกมาจากเรือได้

Advertisement

ด้านนายนาวิล คงดี นายกสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา กล่าวว่า การดำเนินการค้นหาผู้สูญหาย เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกันเป็นกระแสน้ำวน ไหลเชี่ยวและแรงมาก ยากต่อการลงงมค้นหา ต้องประสานเรือจากกรมเจ้าท่าที่มีอุปกรณ์สมอทิ้งดิ่งลงไปจุดที่เรือจม แล้วลากเรือเข้าฝั่ง เพื่อเข้าไปสำรวจภายในห้องโดยสารของเรือได้  ก่อนค้นหาร่างของผู้สูญหาย

ขณะที่ นาวาโท รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าเรือที่จมนั้นเป็นเรือลากจูงอยู่ซ้ายสุดของเรือที่ลากจูงมา 5 ลำ แต่เนื่องด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้เรือเสียการทรงตัวแล้วจมลง ทั้งนี้ ได้ปิดน่านน้ำห้ามเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ทุกลำผ่าน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ และเจ้าของบริษัทเรือนำเรือใหญ่ลงมาทอดสมอเพื่อหาจุดตรงที่เรือจม ซึ่งจะเร่งกู้เรือขึ้นมาให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้เรือบรรทุกสินค้าสามารถเดินเรือได้ตามปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image