5 พรานโหด ฆ่าเสือโคร่งแล่เอาหนัง จ่อเข้ามอบตัววันนี้ เร่งเก็บ DNA พิสูจนห์หาผู้ทำผิด

เปิดหลักฐาน คดี 5 พรานโหด ฆ่า 2 เสือโคร่ง ฆ่าสับเนื้อแร่เอาหนัง จ่อเข้ามอบตัววันนี้ 10.00 น. 

ความคืบหน้ากรณี 5 นายพรานใจโหด ตั้งแคมป์นำวัวมาเป็นเหยื่อล่อสัตว์ออกจากป่ามากินเป็นอาหาร แล้วใช้อาวุธปืนยิงเสือโคร่ง 2 ตัว นำมาแร่เนื้อแล้วถลกเอาหนัง ขณะพนักพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มนายพรานเกิดไหวตัวทัน วิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดที่บริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก ช่วงวันที่ 8-11 มกราคม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า สำหรับของกลางที่นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมกลุ่มนายพรานมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น ประกอบด้วย ซากเสือโคร่งเพศผู้กับเพศเมีย จำนวน 2 ซาก อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน L1526415 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 5 ปลอก อาวุธปืนแก๊ปแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนลูกตะกั่ว จำนวน 176 ลูก ดินปืน 2 ขวด กับอีก 1 ถุง อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด.22 จำนวน 50 นัด แผ่นแก๊ป 150 นัด ซองพัสดุบริษัทขนส่ง มีชื่อผู้รับพัสดุระบุชื่อ ดาว คงจิตรวิวัฒน์ ซองบรรจุยาลดความดัน 1 ซอง ผู้ป่วยชื่อ นางโพเจ๊ะ ไม่มีนามสกุล และระเบิดปิงปอง จำนวน 22 ลูก

สำหรับของกลางซากเสือโคร่ง 2 ซาก มีดพก 4 เล่ม ไฟฉาย 3 อัน แผงโซลาเซลล์ พร้อมหม้อแปลง 1 ชุด สายชาร์จไฟฉาย 2 เส้น หม้อสนาม 3 ใบ เปล 5 หลัง เชือกกลม 5 เส้น เชือกแบน 2 เส้น สลิ้งฉีดยา 2 อัน จอบ 1 เล่ม เสียม 1 เล่ม ยากำจัดพยาธิสำหรับสัตว์ 1 ขวด ยาปฏิชีวนะ สำหรับสัตว์ 1 ขวด แอลกอฮอลล์ผสมฟ้าทะลายโจร 1 ขวด เข็มขัดสนาม 1 เส้น คีมคีบ 1 อัน หน้ากากดำปลา 2 อัน และกรรไกร 1 อัน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้แจ้งขออนุญาตจากพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก เพื่อนำไปเก็บรักษาเอาไว้ตามระเบียบ

ส่วนการแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้นั้นตนได้มอบหมายให้ นายวันชัย สูนคำ และ นายอุเทน บัวโรย เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นผู้แจ้งโดยได้แจ้งความกล่าวหาผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14(2) และมาตรา 31(6) ในข้อหา ฐานร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต

Advertisement

และตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(3) มาตรา 43 ฐานร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์ ตามมาตรา 19(6) และมาตรา 44 ฐาน ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หืออาวุธใดๆเข้าไป ตามมาตรา 19(7) และมาตรา 45 ฐานยิงปืน หรือทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง ตามมาตรา 19(8) และมาตรา 44 ฐานทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ตามมาตรา 19(9) และมาตรา 44 และตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าตามมาตรา 17 และมาตรา 92

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (พญาเสือ) พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมเก็บหาหลักฐาน ขณะที่ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงาน สนับสนุนการป้องกัน และปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมเก็บหลักฐานแล้วตั้งแต่วานนี้เช่นกัน และในวันนี้ (13 มกราคม) นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน.หน่วยพญาเสือ) จะเดินทางลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบหลักฐานด้วย

Advertisement

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อเก็บ DNA และลายนิ้วมือแฝง ที่อาวุธปืน ซากเสือโคร่ง และอุปกรณ์การทำผิดอื่นๆ เพื่อพิสูจน์หาตัวผู้กระทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ที่แท้นายพรานทั้ง 5 รายที่ลงมือก่อเหตุ เป็นชาวบ้านในพื้นที่ โดยจะเดินทางไปมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ที่จะถึงนี้ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image