ผู้บริหารลูกชิ้นเนื้อวัว “นำชัย” สุ่มตรวจ ดีเอ็นเอหมู อีกครั้ง ตรวจถึงน้ำประปา-น้ำแข็ง

ลูกชิ้น

ผู้บริหารลูกชิ้นเนื้อวัว “นำชัย” สุ่มตรวจ ดีเอ็นเอหมู อีกครั้ง ตรวจถึงน้ำประปา-น้ำแข็ง ขอให้มั่นใจในประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี

พญ.ปิยนุช จิตต์เที่ยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น ซี ฟู้ด โปรดักชั่น จำกัด ผู้บริหารแบรนสิค้า นำชัย กล่าวถึง กรณีการตรวจพบสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) สุกร ในลูกชิ้นเนื้อวัว นั้น ท่งบริษัทได้มีการตรวจซ้ำอีกครั้งนั้น ต้องใช้เวลา คาดว่าภายใน 10-14 วันจึงจะทราบผล โดยหากได้รับผลดีเอ็นเอแล้ว ทางบริษัทจะแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบอีกครั้ง

“บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้บริโภคเอง ก็ตกใจกับผลการตรวจสอบเช่นกัน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และพนักงานทุกคน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ลูกชิ้น นำชัย เป็นชาวมุสลิมทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบกับคนเพียงกลุ่มใดเพียงกลุ่มเดียว แต่กระทบผู้ที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ทั้งนี้ จึงขอให้เชื่อมั่นว่ากับสิ่งที่บริษัทได้ทำตามมาตรฐานมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยในลูกชิ้นนั้น แม้กระทั้ง สารบอแรกซ์ สารกันบูด ก็ไม่เคยมีการผสมลงไป ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะใส่ดีเอ็นเอของหมูลงไปในลูกชิ้นเช่นกัน” พญ.ปิยนุช กล่าว

พญ.ปิยนุช กล่าวว่า ด้าน ซัพพลายเออร์ ทุกราย บริษัทก็เลือก ที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาล และการการตรวจสอบครั้งนี้มีการทุกวัตถุดิบ แม้กระทั้งน้ำประปาและน้ำแข็ง ก็มีการตรวจสอบสิ่งเจือปนด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมา ลูกชิ้น นำชัย มีการถูกสุ่มตรวจตามกระบวนการตลอด ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตรวจสอบพบ ดีเอ็นเอ ของสุกร ในลูกชิ้นเนื้อวัว และขอยืนยันอีกครั้งว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เนื้อสุกรผสมในลูกชิ้นเนื้อวัว ดังนั้นจึงมีการตรวจในทุกวัตถุดิบและขั้นตอนการผลิต ซึ่งในขั้นตอนการผลิตก็ยืนยันว่า เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะของ ฮาลาล รวมถึงการดูแลด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดด้วย

Advertisement

“ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ ในประสบการณ์ของบริษัทที่มีมานานกว่า 40ปี และไม่เคยพบประวัติไม่ดีเรื่องของสิ่งเจิอปนและเรื่องความสะอาดเลย โรงงานผลิตของบริษัทตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นมีการสุ่มตรวจบ่อยครั้งตามมาตรฐาน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ดูงานให้กับหลายองค์กร ซึ่งสามรถติดต่อขอเยี่ยมชมได้ตลอด ดังนั้น บริษัทไม่มีทางทิ้งชื่อเสียงและความเชื่อมั่นที่ทุกฝ่ายให้มาแน่นอน” พญ.ปิยนุช กล่าว

Advertisement

พญ.ปิยนุช กล่าวว่าทั้งนี้การสุ่มตรวจมาตรฐานต่างๆ ก่อนที่ลูกชิ้นแต่ละลูกจะออกจากโรงงานนั้นยังคงดำเนินการตามกรรมวิธีการปกติ เช่นการตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย เชื้ออีโคไล เชื้อซาลโมเนลล่า เชื้อแบ็คทีรอย เชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินั่มท็อกซินอะฟลาทอกซิน เป็นต้น รวมไปถึง ลักษณะทางกายภาพ ขนาดลูก สี กลิ่นและ รสสัมผัสของเนื้อวัวและความอร่อยที่ส่งผ่านความจริงใจมาโดยตลอด

น.ส.รุ่งทิพย์ จิตต์เที่ยง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น ซี ฟู้ด โปรดักชั่น จำกัด กล่าวว่า ส่วนกรณีหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ออกประกาศตรวจให้ชาวมุสลิมเลี่ยงรับประทานลูกชิ้นเนื้อวัว ของบริษัท เมื่อวันที่ 10มกราคม 2565 ก็มีมีลูกค้าได้ส่งคืนสินค้ากลับมายังโรงงาน และส่วนที่มีการขนส่งระยะไกล ก็มีการทำลายทิ้ง รวมถึงมีบ้างส่วนที่ผลิตออกมาก็ถูกงดการประทับตรา ฮาลาล ซึ่งทั้งหมดนี้ รวมกันแล้วมีจำนวนไม่มาก ซึ่งบริษัทได้มีการหยุดกระบวนการผลิตรวม 2 วัน เพื่อตรวจสอบทันที่หลังมีเกิดกรณีดังกล่าว และเมื่อ 13 มกราคมก็ได้กลับมาผลิต และขนส่งตามปกติ แต่ไม่ได้ใส่ตรา ฮาลาลลงบนสลากผลิตภัณฑ์

น.ส.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจในผลตรวจดังกล่าว โดยทางบริษัทได้มีการส่งตรวจซ้ำยืนยันไปยังห้องแลบ ถึง 4 สถาบัน ที่ได้มาตรฐานเพื่อตรวจวัดด้วยวิธี อาร์ที-พีซีอาร์ ซึ่งหากพบการปนเปื้อนจริงอาจจะได้รายละเอียดว่ามีปริมาณดีเอ็นเอ มากน้อยอย่างไร และทางผู้บริหารให้นำน้ำประปาและน้ำแข็งที่มีการใช้งานซึ่งไม่ได้ถูกสุ่มตรวจจากทาง ฮาลาล ตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆให้กับผู้บริโภคที่สนับสนุนบริษัทมาอย่างยาวนานส่วนจะผิดพลาดที่ส่วนใดบริษัทจะแจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบเรื่องต่อไป

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
บริษัทดังยันไม่มีหมูผสมในลูกชิ้นเนื้อ เร่งสอบการผลิต-จ่อยื่นชี้แจง กก.อิสลามฯ
พบ DNA หมูใน ‘ลูกชิ้นเนื้อวัว’ ยี่ห้อดัง กก.กลางอิสลามฯแนะผู้บริโภคมุสลิม ไม่ควรรับประทาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image