อึ้ง! วิจัยพบสมองนักกีฬาที่มีการปะทะกว่าครึ่งเป็น ‘ซีทีอี’

อึ้ง! วิจัยพบสมองนักกีฬาที่มีการปะทะกว่าครึ่งเป็น ‘ซีทีอี’

ผลวิจัยเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พบว่าสมองนักกีฬาผู้ล่วงลับ 21 คน ที่บริจาคให้กับ ธนาคารสมองนักกีฬาออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยโรคเนื้อเยื่อสมองเสื่อมรุนแรงเรื้อรัง หรือซีทีอี กว่าครึ่งมีร่องรอยของ ซีทีอี โรคซึ่งเกิดขึ้นจากศีรษะที่ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้มีอาการทางสมองและความผิดปกติทางจิตบางอย่าง

งานวิจัยทำการศึกษาสมองของนักกีฬา 21 คน ในจำนวนนี้ 17 คน อยู่ในวงการกีฬาที่ต้องมีการปะทะรุนแรงพบว่า 20 คนพบอาการเสื่อมของระบบประสาทบางอย่าง ในจำนวนนี้ 12 คนมีร่องรอยบาดเจ็บที่เป็นสัญญาณของซีทีอี นอกจากนี้งานวิจัยยังพบด้วยว่า 6 จาก 12 ผู้บริจาคที่มีซีทีอี และ อีก 1 รายจาก 9 รายที่ไม่มีซีทีอี นั้นเสียชีวิตจากการ “ฆ่าตัวตาย”

โรคซีทีอี คืออาการผิดปกติของสมองเกิดจากการถูกกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากการเล่นกีฬาเช่นฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล หรือรักบี้ โดยผู้ป่วยจะมีอาการเกี่ยวข้องกับปัญหาทางจิตเช่นอารมณ์แปรปรวน พฤติกรรมผิดแปลก โดยอาการซีทีอี จะตรวจพบได้จากการตรวจสอบเนื้อเยื่อสมองเมื่อเสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้องค์ความรู้เกี่ยวกับซีทีอี ส่งผลให้โลกกีฬาหันมาให้ความสนใจกับสวัสดิภาพของนักกีฬามากขึ้นนำไปสู่การปรับนโยบายต่างๆเพื่อปกป้องสวัสดิภาพของนักกีฬาได้มากขึ้น เช่นในปี 2016 อเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล ตั้งกองทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อจ่ายเงินชดเชยให้อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลหลายพันคนที่ได้รับบาดเจ็บทางสมองจากการถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างต่อเนื่อง

Advertisement

ขณะที่กลุ่มอดีตนักรักบี้ยื่นฟ้องต่อสหพันธ์รักบี้นานาชาติ และหน่วยงานปกครองอื่นๆเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 กล่าวหาว่า หน่วยงานล้มเหลวในการปกป้องนักกีฬาจากอาการบาดเจ็บที่นำไปสู่อาการทางสมองด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image