‘ทวิดา’ ห่วงใย เตือนกลุ่ม 608 ใส่หน้ากากอนามัย รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เตรียมพร้อมหากโควิดระบาดอีกรอบ

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช

เตือนประชาชนกลุ่ม 608 สวมใส่หน้ากากอนามัย และรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเตรียมพร้อมหากเกิดการระบาดอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กทม. ครั้งที่ 24/2565 ว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กทม.จึงได้จัดทำมาตรการเชิงรุกที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งเมื่อติดแล้วมีอาการไม่มาก แต่อาจนำเชื้อไปติดผู้ที่ใกล้ชิด หรือคนในครอบครัวซึ่งเป็นกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์) ได้ โดยหลังมีประกาศผ่อนปรนเรื่องหน้ากากอนามัย พบว่าเด็กนักเรียนมีการติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กโต รวมถึงพบว่ากลุ่ม 608 ที่ติดเชื้อจะมีการครองเตียงผู้ป่วยวิกฤตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากข้อกังวลดังกล่าว สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยจึงได้เตรียมพร้อมระบบส่งต่อ ศูนย์เอราวัณ อัตราการครองเตียง และจัดทำแผนสำรอง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยคาดการณ์จากสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงขึ้นในอีก 1 เดือน และเดินหน้าตามแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ผู้ที่รับวัคซีนเข็มล่าสุดมานานแล้ว โดยให้บริการเชิงรุกในชุมชน ควบคุมไปกับการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก Active Case Finding เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีฐานข้อมูลที่ละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“สถานบริการพักฟื้นผู้สูงอายุก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ กทม.เฝ้าระวัง หากพบการระบาดจะใช้วิธี Bubble Seal หากทำได้ หรือใช้วิธีการส่งต่อ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อาศัยร่วมกับกลุ่ม 608 หรือเป็นกลุ่ม 608 สวมหน้ากากอนามัยให้มากที่สุด หากมีข้อสงสัยว่ามีอาการให้รีบกักตัวเอง และไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ณ หน่วยบริการใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่” ผศ.ดร.ทวิดากล่าว

Advertisement

สำหรับข้อมูลรายงานสถานการณ์การติดเชื้อในกลุ่มเด็กนักเรียนสังกัด กทม. ระหว่างวันที่ 17 พ.ค.-4 ก.ค.65 นักเรียนทั้งหมด 253,515 คน พบติดเชื้อ 0.74% แบ่งเป็น นักเรียนระดับอนุบาล จำนวน 36,854 คน ติดเชื้อ 148 คน คิดเป็น 0.40% ระดับประถมศึกษา จำนวน 176,496 คน ติดเชื้อ 1,375 คน คิดเป็น 0.78% ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 35,706 คน ติดเชื้อ 304 คน คิดเป็น 0.85% และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 4,459 คน ติดเชื้อ 58 คน คิดเป็น 1.30%

กรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม ดังนี้ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่ 1.เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร (Distancing)

2.สวมหน้ากาก (Mask wearing)

Advertisement

3.ล้างมือ (Hand washing)

4.ตรวจคัดกรอง (Testing)

5.ลดแออัด (Reducing)

6.ทำความสะอาด (Cleaning)

ส่วน 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ได้แก่ 1.ดูแลตนเอง (Self-care) 2.ใช้ช้อนส้อมส่วนตัว (My Spoon) 3.ทานอาหารปรุงสุกใหม่ (Eating) 4.ลงทะเบียนเข้า-ออก (Tracking) 5.สำรวจตรวจสอบ อาการตนเอง (Self check) 6.กักกันตนเองหากติดเชื้อ (Isolation) 7 มาตรการเข้ม ได้แก่ 1.ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผลผ่าน MOECOVID 2.ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble) หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน 3.จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ 4.อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน (การระบายอากาศ การจัดการขยะ) 5.แผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึงการเตรียมพร้อม School Isolation 6.ควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออกสถานศึกษา และ 7.School Pass สำหรับนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา (ข้อมูล TST ผลการตรวจคัดกรองเชื้อ ประวัติการรับวัคซีน)

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image