เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และวาระ 3 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ นพ.เรวัต วิศรุตเวช แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย(สร.) อภิปรายว่า ขอแปรญัตติตัดลดงบประมาณรายจ่ายในมาตรา 6 งบประมาณของงบกลาง งบฯที่ตั้งไว้คือ 5.9 แสนล้าน ขอปรับลดร้อยละ 5 เป็นจำนวน 2.95 หมื่นล้านบาท โดยปรับลดจากงบจาก (12) คือ เงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ตั้งไว้ 9.2 หมื่นล้านบาท ให้เหลือเพียง 6.28 หมื่นล้านบาท เหตุผลที่ตัด (12) เพราะเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงินที่ตั้งไว้ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีอำนาจใช้และพล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี หลังวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ส่วนในวงเล็บอื่นๆไม่ได้ปรับลด เช่น (8) เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญก็ไม่ปรับลด
จะขออภิปรายให้เหตุผลที่ปรับลดงบฯ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ในการแต่งตั้งพวกพ้องมาเป็น สนช.และให้สนช.แต่งตั้งตัวเองมาเป็น นายกฯ ในวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และยังตั้งพวกตัวเองมาเขียนรัฐธรรมนูญ 2560 บังคับให้ประชาชนลงประชามติยอมรับ ใครขัดขวางก็ถูกดำเนินคดี ดังนั้นรัฐธรรมนูญ 2560 จึงไม่ใช่ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แต่เป็นรัฐธรรมนูญของพล.อ.ประยุทธ์ โดยประยุุทธ์ เพื่อประยุทธ์
นพ.เรวัต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังให้เขียนบทเฉพาะกาลไว้ว่าช่วง 5 ปี ให้ส.ว.ได้เลือกนายกฯ ได้ ซึ่งส.ว.เหล่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นคนที่เลือกมา แปลว่าต้องการอยู่ยาว ครบ 8 ปีแล้วก็ต้องการอยู่ต่อ แต่ประชาชนนั้นหมดความอดทนแล้ว เพราะตลอด8 ปี ประชาชนนั้นมีแต่จนลง แต่นายทุนมีแต่รวยเอาๆ เหตุผลที่อภิปรายลดมาตรา 6 (12) เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ที่ห้ามนายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ต้องครบ 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีในวันถัดไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง จะให้ใคร หรือ องค์กรใดมาบิดเบือนให้อยู่ต่อได้ก็จะกับจุดจบแบบทรราชชุดเก่าๆ ประชาชนจะแสดงพลังออกมาขับไล่อย่างแน่นอน เพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลมจึงขอปรับลดงบประมาณในส่วนนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์จะไม่มีโอกาสได้ใช้งบประมาณก้อนนี้ แต่จะมีนายกฯคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามคงจะใช้งบประมาณอย่างไม่ฟุ่มเฟือยและมีประสิทธิภาพมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จึงขอปรับลดงบประมาณในส่วนนี้เป็นจำนวน 29,523 ล้านบาท
