สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พม่าปฏิเสธการตัดสินใจของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) ที่จะสอบสวนข้อกล่าวหาซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพม่า ฆาตกรรม ข่มขืน และทรมานชาวมุสลิมโรฮีนจา โดยระบุว่า การสอบสวนรังแต่จะโหมกระพือความขัดแย้งให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ยูเอ็นเอชอาร์ซี เห็นพ้องกันเมื่อวันที่ 24 มีนาคมให้มีการส่งคณะเจ้าหน้าที่ค้นหาข้อเท็จจริงเข้าไปยังพม่าอย่างเร่งด่วน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องข้อกล่าวหาที่ตำรวจและทหารมีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่
กองทัพพม่าได้เปิดฉากกวาดล้างชาวโรฮีนจาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วหลังจากกลุ่มติดอาวุธสังหารตำรวจไป 9 นาย ส่งผลให้ชาวโรฮีนจานับแสนคนหนีข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ โดยผู้ที่หนีรอดไปได้เล่าเหตุการณ์อันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นให้คณะผู้สอบสวนของยูเอ็นฟังว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพม่า ทั้งแทงเด็กทารกจนตาย เผาผู้คนทั้งเป็น รวมถึงก่อเหตุรุมโทรมผู้หญิงไปทั่ว
ข้อกล่าวหาดังกล่าวสร้างแรงกดดันอย่างหนักหน่วงต่อรัฐบาลพลเรือนพม่า และกระทรวงต่างประเทศพม่าได้ออกมาตอบโต้เสียงเรียกร้องให้มีการไต่สวนกรณีดังกล่าวนี้อย่างรุนแรง ที่แม้จะไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะสกัดกั้นขัดขวางการไต่สวนของยูเอ็น แต่ประกาศขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาทั้งหมดนี้
ทั้งนี้ พม่ามีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนภายในต่อกรณีดังกล่าวของตนเอง นำโดยนายพลมิน ส่วย รองประธานาธิบดี แต่กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิจำนวนมากรวมถึงยูเอ็นระบุว่า คณะกรรมการดังกล่าวไม่มีอำนาจที่สามารถทำอะไรได้เลย
