เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ นายกฤษฏ์ สุขมังษา ประธานกลุ่มเครือข่ายรักษ์เขาใหญ่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง ชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณเขาใหญ่เริ่มขาดแคลนน้ำ ต้องมีการแจกจ่ายน้ำ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ รีสอร์ต โรงแรม คอนโด สวนน้ำ ที่ตั้งอยู่รอบบริเวณ ได้สูบน้ำบาดาลมาใช้เป็นจำนวนมาก ทำให้ตาน้ำหลายแห่งเริ่มขาดแคลนน้ำ บางแห่งตาน้ำแห้งขอดไป ซึ่งตาน้ำดังกล่าวจะเป็นต้นน้ำที่ไหลสู่ลำน้ำลำตะคอง ทำให้ปริมาณน้ำลดน้อยลง และเมื่อมีการสูบน้ำบาดาลมาใช้มากขึ้นจะส่งผลให้แนวทางน้ำเปลี่ยน น้ำอาจไม่ไหลลงสู่ลำน้ำลำตะคองอย่างที่เคยเป็น และระบบนิเวศลำคลองที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามีผลกระทบไปด้วย
นายกฤษฏ์ กล่าวอีกว่า ตนกำลังเร่งทำหนังสือถึงองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หมูสี และตำบลอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อร่วมประชุมกับผู้ประกอบการ คอนโด โรงแรม รีสอร์ต บ้านพัก และสวนน้ำ ในการจัดระเบียบการสูบน้ำบาดาลในช่วงฤดูแล้ง เพื่อป้องกันปัญหาการใช้น้ำบาดาลมากเกินไป โดยตนจะทำหนังสือภายในเดือนหน้าเพื่อมีการประชุมทันที ในส่วนของสวนน้ำ ทราบว่า สวนน้ำมีการสูบน้ำบาดาลมาใช้อย่างมหาศาล ซึ่งก่อนหน้าจะมีการสร้างโครงการดังกล่าวได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในบริเวณโดยรอบ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้รับรู้ข้อมูลในส่วนที่ว่าจะสามารถเก็บภาษีท้องถิ่นมาบำรุงพื้นที่ และรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลด้านบวกเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีการพูดถึงผลกระทบทางลบเกี่ยวกับการใช้น้ำบาดาลอย่างมหาศาล ซึ่งอาจมีผลกระทบในระยะยาว
ประธานกลุ่มเครือข่ายรักษ์เขาใหญ่ กล่าวว่า ปีนี้ตนคาดว่าเขาใหญ่จะประสบปัญหาภัยแล้งที่สุดในรอบ 50 ปี เนื่องจากมีสภาพอากาศแห้งแล้งเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน แหล่งน้ำต่างๆ ทั้งในเขาใหญ่ และบริเวณพื้นราบแห้งขอดลงมาก แหล่งน้ำทางเดียวที่ใช้ได้คือ น้ำบาดาล ซึ่งถ้าไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์การใช้น้ำบาดาล จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของเขาใหญ่ที่เป็นมรดกโลกจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากเมื่อน้ำบาดาลในพื้นที่ลดลงก็จะมีการดึงน้ำจากในพื้นที่เขาใหญ่ ซึ่งการดึงน้ำจากเขาใหญ่มากเกินไปจะทำให้ความชุ่มชื้นของผืนป่าลดลง เป็นปัญหาลูกโซ่ที่ต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนจัดหาแหล่งน้ำให้สัตว์ป่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความแห้งแล้งในพื้นที่
ด้านนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังสำรวจในพื้นที่ว่ามีแหล่งน้ำบริเวณไหนที่แห้งขอดไปบ้าง พร้อมทั้งหาวิธีการจัดการน้ำเพิ่มเติมน้ำให้เพียงพอ แต่เบื้องต้นได้สำรวจแหล่งน้ำที่สำคัญของเขาใหญ่ อาทิ ลำน้ำ น้ำตก ยังพบปริมาณน้ำมีเพียงพอให้สัตว์มากินได้ แต่อย่างไรก็ตามภัยแล้งในปีนี้พบว่าปริมาณน้ำลดลงค่อนข้างเร็ว และมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งตนจะติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด
