บิ๊กแดง เรียกผู้ว่าฯถก ทบทวนไอเดียปรองดอง ลั่น แม้มีคนเห็นต่าง แต่ประเทศต้องเดินหน้า

“บิ๊กแดง” เรียก ผู้ว่าฯเขตภาคกลาง ทบทวนไอเดียปรองดอง อีกครั้ง แนะทุกฝ่ายอย่ายึดติดนโยบายพรรค วอนทุกฝ่ายช่วยถอยคนละก้าว ช่วยบ้านเมืองเดินหน้า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1 ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาคที่1 (ผอ.รมน.ภาค1) เป็นประธานการประชุมย่อยรับฟังความคิดเห็นในระดับพื้นที่ /จังหวัด ครั้งที่1 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตภาคกลาง และภาคตะวันออกร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาสรุปความคิดเห็นร่วมอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งให้คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอแนะจัดทำร่างสัญญาประชาคม เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองต่อไป

โดยพล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการนำข้อคิดเห็นต่างๆ10 ประเด็นที่กำหนดไว้ มาทบทวน อีกครั้ง โดยยืนยันว่า การสรุปผลที่ได้นั้นเป็นไปตามมาตรฐาน และเชื่อถือได้ตามหลักวิชาการ ขณะเดียวกันทางกองทัพภาคที่1 จะมีประชุมอีก2 ครั้ง ในวันที่4 พฤษภาคม โดยเชิญกลุ่มย่อยต่างๆในภาคกลางตอนบน จังหวัด สระบุรี , นนทบุรี , ปทุมธานี , ชัยนาท , อยุธยา , ลพบุรี , สิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง และวันในวันที่8 พฤษภาคม เชิญกลุ่มย่อย จากพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง เพชรบุรี , นครปฐม , กาญจนบุรี , ราชบุรี , สุพรรณบุรี , สมุทรสาคร , สมุทรสงคราม และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาทบทวนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาในการรับฟังความคิดเห็น ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี เพราะทางท่านผู้ว่าราชการทุกจังหวัดในเขตภาคกลางได้กำกับดูแล และลงมารับฟังความคิดเห็นด้วยตนเอง ทำให้ผลการดำเนินงานในกอ.รมน.ภาค1 เป็นไปตามกรอบเวลา

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้เป็นการทบทวนภายหลังที่ทุกฝ่ายแสดงความคิดเห็นไปแล้ว คงจะได้ข้อสรุปนำไปสู่การปรองดอง และการเลือกตั้ง ทั้งนี้เมื่อทำเสร็จสิ้นทุกกระบวนการ ทางคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการสามัคคีปรองดอง ที่มีพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน จะจัดทำร่างสัญญาประชาคม และจัดทำเวทีสาธารณะอีกครั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นได้อย่างเรียบร้อย จนได้แนวทางการอยู่ร่วมกันได้

Advertisement

เมื่อถามว่าจากการรับฟังความคิดเห็นปรากฎมีคลื่นใต้น้ำ หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่มี100% ก็ไม่ได้ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาของการปรองดองที่นำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งปัจจุบันหลายๆฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ โดยตนเคยชี้แจงไปแล้วว่าให้ทุกคนถอยคนละก้าว แม้จะเป็นการเซตซี่โร่ แต่ก็ทำให้บ้านเมืองเดินไปได้

“จากการรายงานของท่านผู้ว่าฯ ทุกคนเห็นด้วย แต่ในความเห็นด้วยนั้น ก็อย่าไปยึดติดที่พรรคการเมือง วันนี้ต้องมองว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างมาก โดยเฉพาะท่านนายกฯ อยากให้ทุกอย่างเดินไปได้ โดยมีรากฐานคือ ความปรองดอง แต่ถ้าทุกคนยังยึดติดตามนโยบายพรรค ยึดติดระบบการเมืองที่นำไปสู่ความไม่ราบรื่นของการบริหารราชการแผ่นดิน มันก็จะไม่ได้ข้อยุติสักที ซึ่งการบริหาร ผมไม่เชื่อว่าจะมีอะไร100% เพราะจะมีคนเห็นต่าง แต่บนความเห็นต่างนั้น ขอให้บ้านเมืองเดินไปได้ นำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” แม่ทัพภาคที่1 กล่าว

เมื่อถามต่อว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในระดับพื้นที่ ทั้ง4 กลุ่ม พร้อมจะลงสัญญาประชาคม มากน้อยแค่ไหน ผอ.รมน.ภาค1 กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้เป็นการทบทวนความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง แล้วถามแกนนำทั้ง4 กลุ่มว่าเห็นด้วยหรือไม่ จากนั้นก็จะจัดเวทีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเวทีสาธารณะ แล้วให้แกนนำทั้ง4 กลุ่มเอาไปสอบถามประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ หากไม่เห็นชอบตรงไหนก็ให้ยึดเสียงประชาชนเป็นหลัก ถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ทุกคนที่ร่วมกันเสนอข้อคิดเห็นต่างๆก็จะคล้อยตามและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติ และนำไปสู่การเลือกตั้ง และมีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความมั่นคงแข็งแรงต่อไป

Advertisement

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้คณะอนุกรรมการในการดำเนินการสร้างความปรองดองดำเนินการตามกรอบเวลาที่วางไว้ ส่วนปัญหา ข้อขัดแย้ง หรืออะไรที่ไม่ตรงตามกรอบเวลา ตนก็จะเชิญมาประชุมกลุ่มย่อยอีกรอบ เพื่อให้เดินไปได้

” ผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง กลุ่มใดก็ตาม รวมถึงสื่อมวลชน ทุกคนมีความรักในประเทศชาติ และอยากให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ มีเศรษฐกิจที่ดี ก็ต้องถอยกันบ้างแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่” พล.ท.อภิรัชต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image